พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี มีหมายกำหนดการเสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ ๑๓-๑๗ พ.ย.๒๕๖๘ ตามคำกราบบังคมทูลเชิญของประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง ในโอกาส ๕๐ ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการฑูตระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีน @@

อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการ นโยบายเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย ครั้งที่ 3/2568 “อยากให้ทุกท่านช่วยกันคิดเรื่องของการอํานวยความสะดวกต่างๆ เพื่อส่งเสริม การลงทุนของประเทศ” ..น่าเศร้าสาระเรื่องพัฒนาทักษะทรัพยากรมนุษย์ด้านดิจิทัล Up-Skill / Re-Skill ยกระดับทักษะแรงงาน สำหรับป้อนสู่ระบบเศรษฐกิจยุคใหม่ที่เป็นรากฐานสำคัญยิ่งของการแข่งขันกันบนแพลตฟอร์มดิจิทัล แค่ถูกพูดถึงแบบ”ขอไปที” แล้วจะเอาอะไรไปแข่ง…@@

ทำไม่เก่ง แต่เก่ง”จำอวด”…รัฐบาลจัด”บิ๊กอีเว้นต์”สร้างภาพขึงขังรวมพลังทำสงครามกับสแกมเมอร์ เปิดทำเนียบรัฐบาล ระดม ๑๔ หน่วยงาน
๑).ปปง.
๒).สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
๓).กระทรวงดีอีเอส
๔).กระทรวงยุติธรรม
๕).กระทรวงการคลัง
๖).กระทรวงมหาดไทย
๗).กระทรวงการต่างประเทศ
๘).ปปท.
๙).ดีเอสไอ
๑๐).กสทช.
๑๑).กลต.
๑๒).ธนาคารแห่งประเทศไทย
๑๓).สมาคมธนาคารไทย
๑๔).สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ร่วมลงนาม MOU ว่าด้วยความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมสแกมเมอร์ พร้อมประกาศทำสงครามกับสแกมเมอร์ ด้วยยุทธศาสตร์ชวนหัว ๕ ประการ…บ้าบอคอแตกสิ้นดี @@

ถามหน่อยนะท่านผู้ยิ่งใหญ่ทั้ง ๑๔ หน่วยงาน ถ้าไม่มี MOU จะเกียร์ว่าง-จะไม่จัดการกวาดล้างสแกมเมอร์ใช่มั้ย?? มันคือหน้าที่ความรับผิดชอบตามกฏหมายที่ท่านทั้งหลายต้องทำหน้าที่อยู่แล้วมิใช่หรือ ??? @@

ถามหน่อยเถอะท่านนายกรัฐมนตรีอนุทิน ชาญวีรกูล…คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ ๓๔๑/๒๕๖๘ ลงวันที่ ๑๕ ต.ค.๒๕๖๘ เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี จำนวน ๒๓ คน มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ผ่านไปแล้วเกือบ ๑ เดือน ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน เป็นโล้เป็นพายให้ชาวบ้านเชื่อมั่นชื่นใจมั่ง ขณะที่สหรัฐ-อังกฤษ-สิงคโปร์-เกาหลีใต้-ฮ่องกง-ไต้หวัน ไล่ขยี้ตามยึดอายัดทรัพย์สินแก๊งสแกมเมอร์กันโครมคราม…ช่วยเฉลยให้หายข้องใจหน่อยเถอะ @@

รายนี้ดราม่าได้น่ารัก สมกับทำหน้าที่ “ผบ.ตร.ต่ายหวานจ๋อย” พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธ์ุเพ็ชร ออกอาการอึดอัดรับไม่ได้ทนไม่ไหว อ้างเหตุ “โจ๊ก หวานเจี๊ยบ”พล.ต.อ.สุรเชษฐ หักพาล กล่าวหาโจมตี”ตำรวจคือองค์กรอาชญากรรมขนาดใหญ่” ขอแนะนำให้ช่วยกันย้อนกลับไปดูต้นทางของข้อกล่าวหา ไม่ใช่จุดพลุโดย”โจ๊ก หวานเจี๊ยบ” แต่จุดระเบิดโดย๙ อรหันต์ คณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ (​ก.ร.ตร.) ประกอบด้วยพล.ต.ท.สรศักดิ์ เย็นเปรม-พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น-พล.ต.ท.เรวัตร กลิ่นเกษร-พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน-พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ-สุนทร พยัคฆ์-สมศรี หาญอนันทสุข-สกลภมร ใจจรูญ-อริยา แก้วสามดวง ที่มีมติชี้มูลเมื่อวันที่ ๒๔ ต.ค.๒๕๖๘ ระบุความผิดทางวินัย “บิ๊กต่อ” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมพวกกว่า ๒๐๐ นาย พัวพัน”ส่วยพนันออนไลน์”ตามข้อร้องเรียนของ”ทนายตั้ม”ษิทรา เบี้ยบังเกิด หลังใช้เวลาสอบสวนทางลับนานกว่า ๗ เดือน…ถ้าจะปลุกระดมตำรวจดับเครื่องชน ไม่ใช่ชนกับ”โจ๊ก” แต่ต้องชนกับ ก.ร.ตร. @@

ปิดท้ายสวนข่าววันนี้ ใครจะยอวาที ร่ายคาถาเสกเป่ามนตราเนรมิตรภาพวิจิตรเศรษฐกิจไทยยังไงก็ช่าง ตราบใดงบประมาณยังขาดดุลบักโกรกเรื้อรัง ในระดับเกิน ๕% ของจีดีพี ทะลุขั้นวิกฤต-หนี้สาธารณะจวนเจียนเพดานรอมร่อ-การลงทุนเอกชน ยังติดลบซ้ำซาก-กำลังซื้อในประเทศยังสลบไสลโงหัวไม่ขึ้น…ภาพความสดใสสวยงามของเศรษฐกิจไทย ล้วนเป็น”ภาพลวงตา” ตรงข้ามกับความจริงแบบสุดโต่ง @@
ฮูก ตาตี่