ครบรอบ ๙๓ ปีวันพระราชทานรัฐธรรมนูญ ภาคประชาสังคมร่วมกันจัดเวทีสาธารณะ เชิญนักวิชาการ นักการเมือง นักคิด นักเคลื่อนไหว ร่วมถกประเด็น“ปฏิรูปรัฐธรรมนูญและกฎหมายอย่างไร เพื่อสร้างรากฐานประชาธิปไตยให้ยั่งยืน” เนื้อหาหลักยังวนเวียนอยู่กับ ”วิเคราะห์-วิพากษ์” แต่ไร้ชุดข้อมูลเสริมสร้างประชาธิปไตยไทยให้ยั่งยืน-พลเมืองไทยอยู่เย็นเป็นสุข ปลอดภัยจากการถูกครอบงำด้วย”ทุนเทา-ทุนดำ”@@

ศึกไทย-กัมพูชา ล่วงเข้าวันที่ ๔ แนวรบแพร่กระจายออกไปในหลายสมรภูมิ ล่าสุดกองกำลังบูรพา ใช้อำนาจตามกฏอัยการศึก ออกประกาศ”เคอร์ฟิวส์” ห้ามบุคคลในพื้นที่ อ.ตาพระยา-โคกสูง-อรัญประเทศ-คลองหาด ออกนอกเคหสถาน ระหว่างเวลา ๑๙.๐๐-๐๕.๐๐ น. ยังไม่มีวี่แววสงบศึก @@

กลศึกคราวนี้ ต่างจากกลศึกเมื่อครั้งเดือนก.ค.ลิบลับ เหมือน”หนังคนละม้วน”…ตอนนั้น ฝ่ายไทย “ขี้ฟ้อง” แต่ ฝ่ายกัมพูชา “ขี้โกง-ขี้โกหก” มาคราวนี้ ฝ่ายไทย “อุเบกขา-ลุยเอาคืนดินแดน” ปล่อยให้ ฝ่ายกัมพูชา ใช้เล่ห์อุบายโกงสารพัดแหกปาก ร้องครวญคราง ปั่นคะแนนสงสารจากประชาคมโลก…ไม่เว้นแม้กระทั่ง ถอนคณะนักกีฬาออกจากการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ด้วยข้ออ้าง “กังวลเรื่องความปลอดภัย”….@@

กัมพูชาตอนนี้ เหมือน”หมาจ๋อย-แมวง่อย” ถึงขั้นบุคคลระดับผู้นำ งัดเล่ห์อุบายสารพัดออกมาใช้หวังหยุดความยับเยิน จากการโต้กลับของฝ่ายไทย…ล่าสุดที่ปรึกษา นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา อ้อนวอนผ่านสื่อตะวันตก ชวนฝ่ายไทยเจรจาสงบศึก…เราเลิกรบกันเถอะ แต่มีข้อแม้”ไทยต้องหยุดก่อน เพื่อแสดงความจริงใจ”…@@

คาร์ล ชูลส์เตอร์ อดีตผอ.ฝ่ายปฏิบัติการ ศูนย์บัญชาการร่วมข่าวกรองภาคพื้นแปซิฟิค สหรัฐ พยากรณ์แนวโน้มการสู้รบระหว่างกัมพูชากับไทย ส่อเค้าจะลากยาว ด้วยเหตุไทยจะใช้ความได้เปรียบด้านแสนยานุภาพทางการรบ กำราบกัมพูชาให้ศิโรราบ…@@

ทัศนะพยากรณ์ของ ชูลส์เตอร์ น่าจะมีฐานข้อมูลจากสถาบันยุทธศาสตร์ศึกษานานาชาติ (The International for Strategic Studies-IISS) ที่ออกรายงานเปรียบเทียบกำลังพลและยุทโธปกรณ์กองทัพไทย กับ กองทัพกัมพูชา ที่ชี้ชัดกองทัพไทย เหนือกว่า กองทัพกัมพูชา ทุกด้าน รวมทั้งขีดความสามารถในการรบของกองทัพไทย ก็เหนือชั้นกว่า กัมพูชา…@@

ข้อมูลการจัดอันดับแสนยานุภาพด้านการทหารปีล่าสุด หรือ “Power Index ๒๐๒๕” โดย IISS ให้ประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ ๒๕ จากทั้งหมด ๑๔๕ อันดับของโลก ขณะที่กัมพูชา อยู่อันดับที่ ๙๕ เมื่อย่อส่วนมาโฟกัสในอาเซียน ประเทศไทย ถูกจัดอยู่อันดับที่ ๓ รองจากอินโดนีเซีย และเวียดนาม ส่วนกัมพูชา ถูกจัดไปอยู่รองบ๊วยคืออันดับที่ ๘ เหนือกว่า ลาว เท่านั้น @@

ปิดท้ายสวนข่าววันนี้ การส่งมอบข้าวล็อตแรก ๑ แสนตันให้จีน ภายในเดือนธ.ค.นี้ ตามสัญญาซื้อขายข้าวแบบจีทูจี ฉลองสัมพันธ์ไทย-จีน ๕๐ ปี ขึ้นต้นดูสวยดี แต่ตอนนี้กำลัง”ลูกผีลูกคน”มีความเสี่ยงสูงมากจะส่งมอบไม่ทันตามสัญญา….ขอภาวนาให้ผ่านพ้นอุปสรรคไปด้วยดี @@

ฮูก ตาตี่