ประเดิมศักราชใหม่ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๕๖๗ ที่ใช้ตามงบประมาณประจำปี ๒๕๖๖ ไปพลางก่อน จนกว่าพรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๕๖๗ จะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ…โน่นเลยปลายเม.ย.๒๕๖๗ ล่าช้าไปกว่า ๖ เดือน…@@
ล่วงเข้าเดือนที่ ๒ ของการทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีเศรษฐา เปิดมิติใหม่เอี่ยม”ติวเข้มวิชางบประมาณ”ให้ สำนักงบประมาณ และหน่วยรับงบประมาณทั้งหลาย ใช้เป็น”คัมภีร์” สำหรับปรับปรุงรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๕๖๗..สั่งวันนี้ กำหนดเส้นตายให้ส่งไม่เกินวันที่ ๖ ต.ค. ยิ่งกว่าไฟลนก้นข้าราชการ @@
โจทย์ใหญ่ในกระบวนการจัดทำงบประมาณตามนโยบายที่นายกฯเศรษฐา สั่งการวันนี้ คือต้องตอบโจทย์ประเด็นความท้าทายของประเทศ-ต้องตอบโจทย์การฟื้นฟูรายได้-ต้องตอบโจทย์การขยายโอกาส-ต้องตอบโจทย์การยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน-ต้องไม่มีรายการซ้ำซ้อน-ต้องรักษาวินัยการเงินการคลัง-ต้องมีตัวชี้วัดและเป้าหมาย…รวมเบ็ดเสร็จ ๗ ต้อง-นี่คือ”ปฏิวัติเงียบ”กระบวนการจัดทำงบประมาณประเทศ…@@
น่าคิดชวนพิศวงยิ่ง นโยบายงบประมาณโดยนายกฯเศรษฐา ไม่มีแม้แต่ข้อความเดียวเลี้ยวไปเกาะเกี่ยวแผนยุทธศาสตร์ชาติ-แผนปฏิรูปประเทศ ที่เป็นคาถายอดนิยมยุค ๓ ป. ไม่รู้หลงลืมไปโดยบังเอิญ หรือ จงใจลืม @@
ปิดห้องคุยกันที่กระทรวงการคลัง จบไปเรียบร้อยผู้ชาย ๒ เศรษฐ..เศรษฐา นายกรัฐมนตรี กับ เศรษฐพุฒิ ผู้ว่าแบงก์ชาติ…ฝ่ายแรกบอกไม่มีอะไรในกอไผ่ แค่พูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกัน มีทั้งเห็นด้วย ไม่เห็นด้วย…ฝ่ายหลังไม่กระแอมกระไอซักแอะ…@@
เทียบเคียงแนวโน้มสุขภาพเศรษฐกิจผ่านแว่นแบงก์ชาติไทย แหวกแตกต่างไปจากหลายสำนัก..แบงก์ชาติบอก จีดีพีไทยปี ๒๕๖๗ จะโตเว่อร์วังมากถึง ๔.๔% ส่วนธนาคารโลก บอกจะโต ๓.๕% -สภาพัฒน์ บอกโต ๓.๒%-สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน บอกโต ๓.๖% แถมธนาคารโลก ย้ำอีกเงินเฟ้อไทย ต่ำสุดในอาเซียน และเหตุแห่งเงินเฟ้อ มาจากแรงผลักของต้นทุน ไม่ใช่แรงดันจากกำลังซื้อ…@@
พินิจพิจารณาเหตุแห่งเงินเฟ้อ ที่มาจากแรงผลักของต้นทุน แต่แบงก์ชาติ ที่หวาดระแวงเงินเฟ้อชนิดขี้ขึ้นสมอง ใช้มาตรการตะบี้ตะบันขึ้นอัตราดอกเบี้ย เท่ากับกระพือต้นทุนให้แพงหนักขึ้นไปอีก..คนทำมาหากินมีแต่ทรุดกับทรุดจมกองหนี้..แบบนี้ถ้าไม่ใช่การดำเนินนโยบายการเงินผิดพลาดบกพร่อง เป็นเหตุให้เศรษฐกิจซึมเศร้าสลึมสะลือ ก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว @@
ปิดท้ายสวนข่าววันนี้…พวกเดียวกันโดนบูลลี่ เดือดเป็นฟืนเป็นไฟ..๙ ไม่ยอม-๑๐ ไม่ยอม กระตือรือล้นกระเหี้ยนกระหือรือ ตามบดขยี้ข้ามโลก ที”หมาเน่า”ในพวกเดียวกัน ส่งกลิ่นฉาวโฉ่ทิ่มตำความรู้สึกชาวบ้าน ไม่เห็นจะขยันขันแข็งกำจัดกวาดล้าง…ถนัดจังเลยนะงานเอาดีใส่ตัว ปกปิดความชั่วพวกเดียวกัน @@
ฮูก ตาตี่
สวนข่าว ประจำวันจันทร์ที่ ๒ ต.ค.๒๕๖๖ แรม ๓ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีเถาะ…
Related Posts
สวนข่าวประจำวันอังคารที่ ๑๙ ส.ค.๒๕๖๘ แรม ๑๐ ค่ำ เดือน ๙ ปีมะเส็ง
ที่ประชุม ครม.วันนี้ เปิดปฏิบัติการโยกย้ายทิ้งทวน ไม่ใส่ใจขนบธรรมเนียม ความเหมาะสมไม่เหมาะสมใดๆ โดยก.พ.- ก.พ.ร.ตั้งมั่นในความสงบ รู้อยู่-รู้เป็น @@
เป็นไปตามโผเป๊ะเป๊ะ..ที่ประชุม ครม.เคาะชื่อ อุดมพร เอกเอี่ยม รองเลขา ครม.ครองตำแหน่ง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) พ่วงด้วยการเลื่อนขั้นเทียบชั้น “ปลัดกระทรวงฯ” ทั้งที่เป็นหน่วยงานระดับกรม ส่งผลให้ได้เงินเดือน-เงินประจำตำแหน่ง-เบี้ยสารพัดบานฉ่ำ @@
ผู้โชคดีอีกรายส่งท้ายมหกรรมทิ้งทวน…ศุภฤกษ์ ภู่พงศ์ศักดิ์ รองผอ.ป.ย.ป.เลื่อนขั้นเป็น เลขาธิการ ราชบัณฑิตยสภา เทียบชั้นปลัดกระทรวง…สวีวี่วีไชโยโห่หิ้ว @@
อดีตผอ.พศ.ชื่อพ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ตั้งปุจฉา”เลื่อนขั้นตำแหน่งผอ.พศ.เทียบชั้นปลัดกระทรวง แล้วได้อะไร???” แน่นอนไม่ต้องหวังประสิทธิภาพ-คุณภาพผลงานจะดีขึ้น แต่ได้แน่ๆแหงๆคือได้เสียงบประมาณเพิ่มเติมบานตะไท @@
๒ รายนี้ผิดโผผิดคาด…ณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ จากรองปลัดกระทรวงดีอี แทนที่จะข้ามห้วยไปครองตำแหน่ง ปลัดกระทรวงแรงงาน กลับไปจอดป้ายแบบเหงาๆที่ตำแหน่ง ผู้อำนวยการ ป.ย.ป. ส่วน ดนุชา พิชยนันท์ เด้งจาก เลขาสภาพัฒน์ ไปโต้คลื่นในตำแหน่ง เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ…@@
ม็อบเชียร์คุณหนูรอเก้อ…ช่อดอกไม้อวยพรวันเกิด”เป็นหมัน” เมื่อ ท่านหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แพทองธาร ชินวัตร ตีตั๋ว”ล่องหน”ไม่ไปปรากฏตัวในวงประชุมพรรค….@@
ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 พิพากษาลงโทษจำคุก ๘ ปี เจ้าสัวประชัย เลี่ยวไพรัตน์ วัย ๘๑ ปี บอสใหญ่ค่ายทีพีไอโพลีน และณรงค์พล แก้วสาร วัย ๖๒ ปี อดีตพนักงานทีพีไอโพลีน พร้อมกับสั่งปรับบริษัททีพีไอโพลีน ๑๖๐,๐๐๐ บาท ฐานร่วมกันปลอมแปลงเอกสารสิทธิที่ดิน…นี่คืออีกหนึ่งผลงานชิ้นโบว์แดงของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง @@
คณะกรรมการค่าจ้าง ประกาศอัตราค่าจ้างขั้นต่ำธุรกิจโรงแรมและสถานบริการวันละ ๔๐๐ บาท มีผลตั้งแต่ ๑ ก.ค.ที่ผ่านมา ผ่านไปแล้วเกือบสองเดือน เทียนประสิทธิ์ ไชยภัทรานันท์ นายกสมาคมโรงแรมไทย เพิ่งรู้สึก”เอ๊ะ” นัดหารือสมาชิกพรุ่งนี้ และเตรียมร้องทุกข์ศาลปกครอง…ต่อมความรู้สึกทำงานช้าจัง @@
ปิดท้ายสวนข่าววันนี้ เขมรครบเครื่องเรื่องลอบกัด-ตระบัดสัตย์-ตลบแตลง เจนจัดวิชาแอบแทงข้างหลัง โกหกได้ทุกลมหายใจเข้าออกยากจะหาชนชาติใดเสมอเหมือน มทภ.๒ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง บอก“ช่วงนี้สถานการณ์ยัง ๕๐-๕๐ ตามภาพข่าว ประเทศเขมร ก็เป็นไปตามที่เราเข้าใจ ไม่มีอะไรที่เราไว้ใจได้…”@@
ฮูก ตาตี่
สวนข่าวประจำวันจันทร์ที่ ๑๘ ส.ค.๒๕๖๘ แรม ๙ ค่ำ เดือน ๙ ปีมะเส็ง
ช็อค-ตกตะลึง ตาเบิ่งโพล่งยิ่งกว่าเจอของแปลกพิสดารมหัศจรรย์พันลึก คือ สตง. ที่ได้คะแนนความโปร่งใสมากที่สุดเป็นอันดับ ๑ ในกลุ่มองค์กรอิสระ…ภาพตึก สตง.พังถล่มฝังร่างคนตายทั้งเป็นนับร้อยยังหลอนไม่หายจนบัดนี้ @@
ปฏิกิริยามหาชนที่ตื่นตะลึงกับคะแนนความโปร่งใสมากเป็นอันดับ ๑ ของ สตง.กดดันให้ สตง.ต้องรีบออกคำชี้แจงเป็นตุเป็นตะ ต่างกันลิบลับกับตอนตึก สตง.ถล่ม ทั้งที่การชี้แจงแก้ข้อสงสัยควรเป็นของ ปปช. ในฐานะ”เจ้าภาพ”จัดทำผลประเมินความโปร่งใส แถมให้คะแนนประเมินตัวเองเป็นอันดับ ๓ รองจาก กกต.….แต่ ปปช.กลับสงวนท่าที”ใบ้”ซะงั้น @@
กรณีผลคะแนนประเมินความโปร่งใส ที่เป็น”ข้อมูลสาธารณะ” คาราวานรถทัวร์มหาชน ควรพุ่งเป้าไปเทกระจาดถามหาคำชี้แจงจาก ปปช. แทนที่จะเป็น สตง. และ ปปช.มีหน้าที่ต้องตอบชี้แจงให้ชาวบ้านหายข้องใจ เว้นแต่ว่าจะมีความไม่ชอบมาพากลซุกซ่อนอยู่ในการประเมิน…อย่าคิดว่าเป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญแล้วจะมีอิสระ ทำอะไรก็ได้ @@
ว่าไปแล้วการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส ในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ ควรต้องออกแบบใหม่ ให้อยู่ในความรับผิดชอบของคณะกรรมการที่มีความเป็นอิสระ ไม่ใช่อยู่ในความรับผิดชอบของ ปปช. เพื่อความโปร่งใส-น่าเชื่อถือ และ”ไม่มีลักษณะผลประโยชน์ทับซ้อน”…ที่ทำกันมา-ทำอยู่ และยังจะทำต่อไป เหมือน”ปปช.ชงเอง-กินเอง-เออเอง-อวยเอง” ไม่เขินไม่อายมั่งเลยเหรอ ???@@
ประชุม ครม.อังคารนี้ (๑๙ ส.ค.) ๒ วันก่อนวันเกิดนายกฯแพทองธาร แว่วว่าจะมีรายการ ”ทิ้งทวน” สะท้อนนัยยะ”อวสานรัฐบาล” สังเกตจากสัญญาณมหกรรมโยกย้ายข้าราชการระดับอธิบดี-ผวจ.มโหฬาร…พชร อนันตศิลป์ “คนข้างหมอน”เลขา ครม. จะโยกจาก ผอ.สบน.กระทรวงการคลัง ข้ามห้วยขึ้นตำแหน่ง ปลัดกระทรวงดีอี-ณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ จากรองปลัดกระทรวงดีอี เหาะข้ามกระทรวงไปกินตำแหน่ง ปลัดกระทรวงแรงงาน-ต่ออายุเลขาสภาพัฒน์ ดนุชา พิชยนันท์….น่าสงสัยอายุขัยรัฐบาลมีแนวโน้มสูงยิ่งจะหยุดลงวันเดียวกับวันเกิดนายกฯแพทองธาร พอดิบพอดี @@
ปิดท้ายสวนข่าววันนี้ สภาพัฒน์ ปล่อยข้อมูลจีดีพีไตรมาส ๒ ออกมาแล้ว โตแค่ ๒.๘% แย่ลงจากไตรมาสแรกที่โตถึง ๓.๒% และแย่ที่สุดเมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่งสำคัญในอาเซียน…เวียดนาม โต ๗.๙๖%-ฟิลิปปินส์ โต ๕.๕%-อินโดนีเซีย โต ๕.๑๒%-มาเลเซีย โต ๔.๔%-สิงคโปร์ โต ๔.๔%….@@
ฮูก ตาตี่