สวนข่าวประจำวันพุธที่ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๖๗ ขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะโรง

เบิกม่านโหมโรงบรรเลงในสภาผู้แทนราษฏรไปแล้ว การพิจารณาร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๕๖๘ วงเงิน ๓.๗๕ ล้านล้านบาท บนฐานการขาดุลกว่า ๘.๖ แสนล้านบาท หวุดหวิดชนเพดานการก่อหนี้ ตามกรอบวินัยการเงินการคลัง@@

นายกฯเศรษฐา ทวีสิน สร่างไข้โควิด ยืนทน-พูดทน ใช้เวลาแถลงร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๕๖๘ ยาวเหยียด ๙๐ นาที ตั้งแต่ ๙ โมงครึ่งยัน ๑๑ โมง…ฟังแล้วได้แต่ตั้งจิตภาวนาขอพรพระสยามเทวาธิราช และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายได้โปรดอุปถัมภ์ค้ำชูประเทศไทย-ประชาชนไทยให้รอดปลอดภัยจากความทุกข์ยากอดอยากด้วยเถิด @@

พลิกดูสาระในร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๕๖๘ เทียบเคียงกับพ.ร.บ.งบประมาณก่อนหน้า พบเห็นความแตกต่างชัดเจนแค่ปี-วงเงิน-ยอดขาดดุล นอกเหนือจากนั้น…งั้นงั้นแหละ เหมือน”ตัดแปะ”ต่อต่อกันมา @@

นโยบายแนวทางจัดทำงบประมาณ สวยหรูดูดี ที่นายกฯเศรษฐา เคยประกาศไว้ เมื่อวันที่ ๒ ต.ค.๒๕๖๖ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “งบประมาณแบบฐานศูนย์” หรือ Zero-Based Budgetting -รายจ่ายลงทุนต้องมีรายละเอียดชัดเจน-โครงการ/แผนงานต้องทำตามความจำเป็นเร่งด่วน สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และมีตัวชี้วัดสะท้อนประสิทธิภาพ ประสิทธิผลชัดเจน….ถูกทิ้งขว้างไม่ต่างอะไรกับนโยบายไร้ค่าไร้ความศักดิ์สิทธิ์ ราวกับไม่เห็นศีรษะคนเป็นนายกรัฐมนตรี @@

โป๊ะแตกกระจุยกระจายกรณีเรือน้ำมันเถื่อน ล่องหนจากท่าเทียบเรือตำรวจน้ำ สัตหีบ สืบสาวราวเรื่องกลายเป็นผลงานอุบาทว์ข้าราชการตำรวจ สังกัดบช.ก.สมคบนายทุนเถื่อน…เน่าแล้ว-เน่าอยู่….ยังจะมีเน่าต่อไปวงการตำรวจไทย หึ่งตั้งแต่หัวยันหาง @@

ปิดท้ายสวนข่าววันนี้…ไม่รู้จะงึมงำอมพะนำร่ำไรหาพระแสงอะไร แค่เรื่องให้พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. คืนรัง กลับสู่สถานะเดิม หรือว่ามีความไม่ชอบมาพากลแอบแฝงซ่อนเร้นท่วมปากอยู่ ?@@

ฮูก ตาตี่

สวนข่าวประจำวันอังคารที่ ๑๘ มิ.ย. ๒๕๖๗ ขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะโรง

ผ่านมาและผ่านไปเรียบร้อย ตามความคาดหมาย สำหรับดราม่าการเมือง ๔ เรื่อง ๔ รส ไม่มีอะไรเซอร์ไพร์ส @@
นช.ทักษิณ ชินวัตร จำเลยคดีม.๑๑๒ และพ.ร.บ.คอมฯ ได้รับการประกันตัว ในวงเงินมโหฬารมหาศาลสำหรับยาจกวณิพกถึง ๕ แสนบาท…ขอย้ำมากถึงตั้ง ๕ แสนบาทเชียวนะ @@

พรป.การได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา ศาลรธน.วินิจฉัยแล้ว มีมติเป็นเอกฉันท์”ไม่ขัดรธน.” การเลือกตั้งส.ว.ที่เกิดขึ้นไปแล้ว และที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันพุธที่ ๒๖ มิ.ย. กกต.เดินหน้าได้เต็มสูบ…ลุยโลด!!@@

อาการพิสดารพันลึกของรัฐบาลเศรษฐา ผุดขึ้นรัวรัว วันก่อนรมช.คลังเป็นตุเป็นตะ เงินดิจิทัลวอลเล็ต ซื้อโทรศัพท์มือถือได้-ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ ผ่านไปไม่ทันนกกระจอกกินน้ำ รมช.คนเดียวกันอ้อมแอ้ม”คืนคำ”ซะงั้น…ล่าสุดเวทีประมูลขายข้าวโกโรโกโสข้ามทศวรรษ ไชโยโห่ฮิ้วคุยโวโอ้อวดน้ำลายไม่ทันแห้ง ต้องรีบพลิกลิ้นสั่งตรวจสอบผู้ชนะประมูลอย่างละเอียด หลังถูกตั้งข้อสงสัย มีทุนแค่ ๒ ล้านบาท แต่ประมูลซื้อข้าวรัฐวงเงินหลายร้อยล้านบาทก็ได้เหรอ…อ้าว!!ก็ไหนว่าตรวจสอบคุณสมบัติผู้เข้าประมูลก่อนเปิดประมูลดิบดีแล้วไง @@

หายจากหน้าสื่อไปหลายวัน “บิ๊กโจ๊ก”พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล กลับมาแล้ว พร้อมกับ ๒๔,๐๘๕ รายชื่อประชาชน ยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฏร เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบ”ปปช.คนหนึ่ง” มีพฤติกรรมร่ำรวยผิดปกติ-ทุจริตต่อหน้าที่-ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง…หมากเกมนี้จะลงเอยอย่างไร ต้องตามดูกันต่อไป @@

ขอแสดงความยินดีกับ ผีึ้งรวง ประเสริฐพานิชการ-ประเวศ รักษพล-วิชญ์ชัย ธรรมประดิษฐ์-อนุชา ฮุนสวัสดิกุล-ศรัณยู โพธิรัชตางกูร ได้รับเสียงโหวตอย่างท่วมท้นจากสมาชิกวุฒิสภาให้ดำรงตำแหน่ง”ตุลาการศาลปกครองสูงสุด” @@

ปิดท้ายสวนข่าววันนี้…ควันหลงกรณีปวิณ ภิรมย์ภักดี ประธานบีจีปทุมยูไนเต็ดเอฟซี เมินดอกไม้ช่อใหญ่ของ”มาดามแป้ง”นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมฟุตบอลฯ แล้วโดนทัวร์เทกระจาดสาดเสียเทเสีย อยากวิงวอนให้ลองตั้งสติแล้วใช้ปัญญาแสวงหาคำตอบ “ทำไมปวิณทำอย่างนั้น?/ปวิณ โดนหักหลังหรือเปล่า?-ปวิณโดนใครบางคนแถวพนมรุ้ง ซ่อนแอบชายกระโปรงแทงข้างหลังหรือไม่?/ใครบางคนแถวพนมรุ้ง หวาดระแวงบารมี ปวิณ จะเป็นเหตุให้สิงห์ผงาดเหนือช้างในสมาคมฯหรือไม่???”…รู้แล้วช่วยบอกหน่อยเถอะ อย่าให้ต้องรอไป”ถามกูซิ”!!!@@

ฮูก ตาตี่

สวนข่าวประจำวันจันทร์ที่ ๑๗ มิ.ย. ๒๕๖๗ ขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะโรง

ผ่านไปแล้วการเลือกตั้ง ส.ว.แบบอนาธิปไตยใต้เสื้อคลุมประชาธิปไตย รอบจังหวัด ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์สารพัดสารเพ…หาดีไม่ได้ @@

บทส่งท้ายเลือกตั้งส.ว.รอบจังหวัด จำแนกสายพันธ์ุส.ว.ออกได้ ๘ สายพันธ์ุ ๑).ส.ว.ทาสพรรคการเมือง ๒).ส.ว.บริวารกลุ่มทุน ๓).ส.ว.ฮั้ว ๔).ส.ว.จับฉลาก ๕).ส.ว.ทรยศ ๖).ส.ว.โหนกระแส ๗).ส.ว.โสเภณี ๘).ส.ว.อิสระ…ส.ว.สายพันธ์ุ ๑-๗ ดูจะชุกชุมที่สุด @@

พรุ่งนี้แล้วซินะ ๑๘ มิ.ย.”วันฝนตก คดีไหล คนอะไรมาเจอกัน”…นช.ทักษิณ ชินวัตร จะยอมไปรายงานตัวที่สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อส่งฟ้องศาลคดีม.๑๑๒ หรือไม่-นช.ทักษิณ จะได้รับการประกันตัว ไม่ต้อง”เช็คอิน”เข้าเรือนจำหรือไม่-ถุงขนม ๒,๐๐๐ ล้านบาท แลกอิสรภาพ นช.ทักษิณ มีจริงหรือไม่…ได้รู้ดำรู้แดงกัน @@

ศาลสถิตยุติธรรมตาดู-หูฟัง-ใส่ใจเสียงชาวบ้าน…สรวิศ ลิมปรังษี โฆษกศาลยุติธรรม บอกที่ประชุมคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม(ก.ต.) เสนอประธานศาลฏีกา พิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการสดับตรับฟังข้อเท็จจริง เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น กรณีมีข่าวปรากฏตามสื่อต่างๆ ทำนองว่ามีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม และพยายามวิ่งเต้นเรื่องการประกันตัวผู้ต้องหาบางราย…@@

๑๘ มิ.ย. ยังต้องลุ้นระทึก คดี กกต.ถูกร้องออกระเบียบว่าด้วยการเลือกตั้งส.ว. ชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่…ถ้าผลลัพธ์เป็นไปตามคำร้อง การเลือกตั้งส.ว.ที่ผ่านไปแล้ววันที่ ๙ มิ.ย.-วันที่ ๑๖ มิ.ย. และที่กำลังจะมีขึ้นวันที่ ๒๖ มิ.ย. มีความน่าจะเป็นสูงมากที่จะ”ล่มและล้ม”…..ส.ว.ชุด คสช.ได้ไชโยโห่หิ้ว ตีตั๋วรักษาการไปยาวยาว @@

รุ่นเก๋าลายครามอย่าง สมศักดิ์ เทพสุทิน สวมบท รมว.สาธารณสุข ทำงานฉับไวจัดระเบียบยาบ้า ประทับใจชาวบ้าน เดินหน้าลุยจัดระเบียบกัญชา แถมประกาศจุดยืนชัดเจน “ไม่บ้าจี้”หนุนขยายเวลาเปิด สถานบริการถึง ตี ๔ ด้วยชุดข้อมูลสถิติผลลัพธ์จากการทดลอง ขยายเวลาเปิดสถานบริการถึงตี ๔ ใน๕ พื้นที่นำร่อง กรุงเทพมหานคร-ภูเก็ต-ชลบุรี-เชียงใหม่ และ เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พบว่า รายได้จากการขายเพิ่มขึ้น ๕๕% น้อยกว่ากัน”ครึ่งต่อครึ่ง” กับ ๑๗ เมืองหลัก กาญจนบุรี-นนทบุรี-ปทุมธานี-อยุธยา-สระบุรี-ฉะเชิงเทรา-ระยอง-สมุทรปราการ-นครปฐม-สมุทรสาคร-เพชรบุรี-ประจวบคีรีขันธ์-พังงา-กระบี่-สงขลา-ขอนแก่น-นครราชสีมา ที่ไม่ขยายเวลาเปิดบริการ แต่กลับมีรายการจากการขายโตขึ้นถึง ๑๐๓.๒% เลวร้ายยิ่งกว่านั้นคือ ๕ พื้นที่นำร่อง มีสถิติตายจากอุบัติเหตุบนท้องถนน เพิ่มขึ้น ๑๓.๔% อีกทั้งข้อปฏิบัติทั้งการตรวจวัดแอลกอฮอลลูกค้าก่อนออกจากร้าน-การปฏิเสธการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอลแก่ลูกค้าเมาไม่ได้สติ….เกือบร้อยทั้งร้อย”พูดแล้วไม่ทำ”และเจ้าหน้าที่รัฐเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ปล่อยปละละเลย @@

ปิดท้ายสวนข่าววันนี้…ความเปราะบางทางเศรษฐกิจ+ความปวกเปียกทางการเมือง พาประเทศสู่ความมืด ฉุดดัชนีราคาหุ้นวันนี้ทรุดวูบลงเหลือ ๑,๒๙๖.๕๙ จุด ต่ำกว่าระดับ ๑,๓๐๐ จุดเป็นครั้งแรกในรอบ ๔ ปี และถอยหลังกลับไปวันที่ ๒ ม.ค.ที่ตลาดเปิดทำการประเดิมศักราชใหม่เป็นวันแรก ดัชนีวันนั้นปิดที่ ๑,๔๓๓.๓๘ จุด มาถึงวันนี้ ดัชนีราคาหุ้นหายวับไปแล้ว ๑๓๖.๗๙ จุด คิดเป็น ๙.๕๔ % มูลค่าความมั่งคั่งของตลาดหุ้น สังเวยความซังกะบ๊วยห่วยแตกของผู้บริหารบ้านเมืองไปแล้ว ๑.๕๓ ล้านล้านบาท….มากกว่างบดิจิทัลวอลเล็ตที่ยังมั่วกันไม่เสร็จถึง ๓ เท่าตัว…โปรดทราบโดยทั่วกัน@@

ฮูก ตาตี่

สวนข่าวประจำวันศุกร์ที่ ๑๔ มิ.ย. ๒๕๖๗ ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะโรง

นับจากนี้อีก ๒ วัน ถึงคิวเลือกส.ว.ระดับจังหวัดอีก ๒ รอบ กระแสข่าวสะพัดว่าด้วยการทุ่มเงิน”ซื้อ-ขายเสียง”หนักมาก…ว่ากันที่”หลักหมื่น” @@

กกต.ลุยจัดเลือกตั้ง ส.ว.ไปบนความเสี่ยงล่ม-ล้ม หากถึงที่สุด ศาลรธน.วินิจฉัย”การจัดการเลือกตั้งขัดรัฐธรรมนูญ” เป็นเหตุให้การเลือกตั้ง “เป็นโมฆะ”…กกต.ชุดอิทธิพร บุญประคอง อาจต้องลงเอยแบบเดียวกับชุดพล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ @@

“บิ๊กแจ๊ส” พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้สมัครนายก อบจ.ปทุมธานี ส่งทนายร้อง กกต.เช็คบิล ผู้สมัครบางคนที่ได้แรงหนุนจาก นักโทษชายที่อยู่ระหว่างพักโทษ จัดกิจกรรมช่วยหาเสียงในลักษณะ “มหรสพ” เข้าข่ายผิดพ.ร.บ.เลือกตั้ง…เวลาเปลี่ยน-ผลประโยชน์เปลี่ยน คุณค่าความหมายของวลี”มีวันนี้ เพราะพี่ให้” ไม่น่าจะต่างอะไรกับ “ผายลม” @@

๑๘ มิ.ย.กลายเป็น”วันชุมนุมคดีการเมือง” ชี้ชะตากรรมประเทศไทยไปโดยปริยาย มีทั้งคดียุบพรรคก้าวไกล-ถอดถอนนายกรัฐมนตรี-เลือกตั้งส.ว.-ทักษิณติดบ่วงม.๑๑๒ แต่คดีที่น่าจับจ้องที่สุด คือ”ทักษิณ ติดบ่วงม.๑๑๒” เมื่อถึงกำหนดนัดหมาย ทักษิณ จะโผล่ไปรายงานตัวที่สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อนำตัวส่งฟ้องศาลหรือไม่…หรือทักษิณ จะแปลงร่างเป็น “ขอมดำดิน” ล่องหนหายตัวไปเหมือนเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อน @@

เมืองไทยยุคดิจิทัล ต่ำตมสวนทางเทคโนโลยีสมัยใหม่…ลัทธิ-ความเชื่องมงายผุดเป็นดอกเห็ด ทั้งเชื่อมจิต-ถวายตัวมั่วเซ็กส์-อธิษฐานจิตอ้อนวอนพระเจ้า และยกระดับความสามานย์เย้ยนรกอเวจี ถึงขั้นแอบอ้างเอาเลือดหลวงพ่อคูณ ไปเป็นมวลสารปลุกเสกวัตถุมงคล ตุ้มตุ๋นทรัพย์สินเงินทองชาวบ้าน…@@
การครองชีวิตทุกวันนี้ ต้องตั้งมั่นในความมีสติ เจริญศีล เจริญธรรม เพื่อยังให้เกิดปัญญา รู้เท่าทันอุบายสกปรกโสมมสารพัดที่ล้วนเกรอะกรังด้วยอวิชชา..@@

พฤติกรรมอุบาทว์สามานย์แอบอ้างเลือดหลวงพ่อคูณ ทำวัตถุมงคล ขืนเจ้าหน้าที่รัฐปล่อยปละละเลยไม่จัดการขั้นเด็ดขาด เชื่อว่ามันจะเพิ่มความเข้มข้นของการแพร่เชื้อชั่วระบาดไปถึงการอุปโลกน์ธาตุขันธ์ ของพระอรหันต์ ไปปลุกเสกวัตถุมงคล…ต้องขุดรากถอนโคนโดยไว @@

ปิดท้ายสวนข่าววันนี้…นับจากกลางดึกคืนนี้ต่อเนื่องไป ๑ เดือน คนไทยหลายล้านคน จะใช้ชีวิตเลียนแบบ”นกฮูก” เพื่อลุ้นผลฟุตบอลยูโร ที่จะประเดิมเปิดสนามระหว่างทีมชาติเยอรมนี เจ้าบ้าน กับ ทีมชาติสก็อตแลนด์…ตามลุ้นตามเชียร์กันได้ตั้งแต่ตี ๒ เป็นต้นไป ทางหน้าจอ พีพีทีวี หมายเลข ๓๖

ฮูก ตาตี่

สวนข่าวประจำวันพฤหัสบดีที่ ๑๓ มิ.ย. ๒๕๖๗ ขึ้น ๗ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะโรง

กทม.-กรมปศุสัตว์ ยกโขยงตรวจโซนค้าสัตว์เลี้ยงส่วนที่ปลอดภัยจากโศกนาฏกรรมไฟไหม้ พบผู้ค้าส่วนใหญ่ ทำมาหากินโดยไม่มีใบอนุญาตถูกต้องตามกฏหมาย ของกรมปศุสัตว์ นี่ถ้าไฟไม่ไหม้-สัตว์เลี้ยงไม่ตายหมู่อย่างน่าอเนจอนาถคงขายสัตว์เลี้ยงแบบผิดกฏหมายกันไปเรื่อย @@

เมืองไทยอะไรก็เกิดขึ้นได้…เรือบรรทุกน้ำมันลำเบ้อเร่อเท่อ กลายเป็น”เรือดำน้ำ”ซะงั้น จู่ๆก็ดำน้ำล่องหนหายวับไปอย่างไร้ร่องลอย ถึง ๓ ลำ พร้อมกับน้ำมันเถื่อนกว่า ๓ แสนลิตร และลูกเรือกอีกนับสิบคน ทั้งที่อยู่ในความดูแลของตำรวจน้ำ…กินเนสบุ๊คเวิร์ลเร็คคอร์ดน่าจะบันทึกไว้เป็นที่สุดของความพิสดารพันลึก @@

กรณีเรือบรรทุกน้ำมัน ๓ ลำ กลายเป็นเรือดำน้ำ ล่องหนไปพร้อมน้ำมันเถื่อนและลูกเรือ อย่าตัดจบแค่สั่งเด้งตำรวจน้ำ ๕ นาย เข้ากรุ แต่น่าจะต้องนำมาถอดบทเรียน เร่งรัดกระบวนการยุติธรรมให้รวดเร็วขึ้น ไม่ใช่จับเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อนมาตั้งแต่ ๑๗ มี.ค.๖๗ แล้วนำไปจอดแช่น้ำไว้ที่ท่าเรือตำรวจน้ำสัตหีบ นานเกือบ ๓ เดือน ตั้งแต่ ๑๙ มี.ค.๖๗ เพื่อรอกระบวนการดำเนินคดีตามกฏหมายแบบ”หวานเย็น” กระทั่งเรือล่องหนหายไปกลางดึกวันที่ ๑๑ มิ.ย.๖๗..@@

ในพื้นที่รับผิดชอบของตำรวจ เรือบรรทุกน้ำมัน กลายเป็น เรือดำน้ำ ตำรวจน้ำระดับ”นายพัน”โดนเด้ง…ในพื้นที่ทหาร กองทัพภาคที่ ๒ มีประเด็น”รีดค่าสูบส้วม” ทหารเกณฑ์ “ผู้พัน” ก็โดนเช็คบิลเหมือนกัน @@

ไปตรวจชีพจรเศรษฐกิจกันหน่อย…ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย รายงานดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค งวดล่าสุดเดือนพ.ค. 67 อยู่ที่ 60.5 ปรับตัวลดลง ๓ เดือนติด และเป็นระดับความมั่นต่ำสุดในรอบ ๗ เดือน โดยมีสาเหตุหลักมาจากพายุหมุนทางการเมือง..ไม่รู้นายกฯเศรษฐา จะโดนสอยมั้ย-ไม่รู้ ทักษิณ จะเช็คอินเรือนจำรีสอร์ทมั้ย-ไม่รู้ก้าวไกล จะโดนยุบมั้ย-ไม่รู้เลือกตั้ง ส.ว.จะล้มมั้ย @@

ปิดท้ายสวนข่าววันนี้…ลุ้นผลการเคาะชื่อผจก.ตลาดหุ้นคนที่ ๑๔ ในวันที่ ๑๔ มิ.ย. ใครจะโฮ-ใครจะเฮ ระหว่าง อัสสเดช คงสิริ กับ อัฏฐ์ ทองใหญ่ อัศวานันท์ ที่มี บมจ.แสนสิริเป็นลมใต้ปีก ขณะที่ แมนพงศ์ เสนาณรงค์ เต็งจ๋ามาแต่ต้น หลุดวงโคจรไปอย่างเหนือความคาดหมาย และเจ้าตัวตัดสินใจ “ลาออก”จากความเป็นรองผจก.ตลาดหลักทรัพย์ฯเรียบร้อยแล้ว @@

ฮูก ตาตี่

สวนข่าวประจำวันพุธที่ ๑๒ มิ.ย. ๒๕๖๗ ขึ้น ๖ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะโรง

โอ้ฮะโอ้ฮะโอฮะโอ้ คดีกกต.ร้องยุบพรรคก้าวไกล ส่อเค้าฉายแวว”ยกคำร้อง” หากกกต.ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมต่อศาลฯไม่ครบถ้วน หาไม่ศาลฯเสี่ยงถูกเหมารวมร่วมกระทำความผิดไปด้วย….อ.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต แห่งนิด้า ให้สัมภาษณ์สื่อในเครือมติชน @@

ท่าทาง กกต.กำลังงานเข้ารัวรัว ไหนจะต้องจัดหาข้อมูลเพิ่มเติมคดียุบพรรคก้าวไกลตามคำสั่งศาลฯ…ไหนจะต้องทำใจเตรียมรับคำวินิจฉัยของศาลว่าด้วยการจัดการเลือกตั้ง ส.ว.ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่…ทั้ง ๒ เรื่องเกิดขึ้นในวันเดียวกัน อังคารที่ ๑๘ มิ.ย.นี้ @@

พิลึกพิลั่นดีจังกับเหตุผลสนับสนุนมติ กนง.ในการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ ๒.๕% โดย ปิติ ดิษยทัต ผู้ช่วยผู้ว่าการแบงก์ชาติ บอก “..เศรษฐกิจมีสัญญาณฟื้นตัวชัดเจนดีขึ้น…” ก็ถ้ามันดีจริงตามพูด แล้วแบงก์ชาติ ชวนสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย-สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย-สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย-สมาคมธุรกิจเช่าซื้อไทย ไปคุยอะไรกันในวันที่ 17 มิ.ย.นี้..อย่าบอกนะว่าชวนไปเฮฮาปาร์ตี้ @@

บทวิเคราะห์ KKP Research ของกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร เรื่อง “โรงงานไทยที่กำลังปิดตัว บอกอะไรเรา ?” บ่งชี้อาการป่วยของระบบเศรษฐกิจ ด้วยชุดข้อมูลอัตราการปิดโรงงานที่ไต่ระดับเพิ่มขึ้นน่าขนหัวลุก จากค่าเฉลี่ยการปิดโรงงาน ๕๗ โรงต่อเดือน ในปี ๒๕๖๔ เพิ่มขึ้นกว่า ๔๕% เป็น ๘๓ โรงต่อเดือน ในปี ๒๕๖๕ และเพิ่มขึ้นไปอีกกว่า ๙๑% เป็น ๑๕๙ โรงต่อเดือนช่วงครึ่งหลังของปี ๒๕๖๖…@@

บทวิเคราะห์เดียวกันของ KKP Research สรุปยอดจำนวนโรงงานปิดตัวระหว่างม.ค.๒๕๖๕-มี.ค.๒๕๖๖ จำนวน ๑,๑๐๖ โรง และระหว่างม.ค.๒๕๖๖-มี.ค.๒๕๖๗ มีโรงงานปิดตัว เพิ่มขึ้นถึงกว่า ๕๔% เป็นจำนวน ๑,๗๐๔ โรง ส่งผลกระทบทำให้คนงานถูกเลิกจ้าง ช่วงม.ค.๒๕๖๕-มี.ค.๒๕๖๖ จำนวน ๓๑,๖๓๘ คน และคนงานถูกเลิกจ้างช่วง ม.ค.๒๕๖๖-มี.ค.๒๕๖๗ เพิ่มขึ้นกว่า ๓๓% เป็น ๔๒,๐๙๔ คน…เบ็ดเสร็จระหว่าง ม.ค.๒๕๖๕-มี.ค.๒๕๖๗ มีโรงงานปิดตัวไปแล้ว ๒,๘๑๐ โรง มีคนงานถูกเลิกจ้างไปแล้ว ๗๓,๗๓๒ คน…@@

บทวิเคราะห์ KKP Research ยังรายงานยอดการเปิดโรงงานสุทธิ (จำนวนโรงงานเปิดหักลบด้วยโรงงานปิด) ในภาพรวม มีอาการชะลอตัวลงอย่างมาก จากค่าเฉลี่ยที่เป็นบวกสุทธิประมาณ 150 โรงงานต่อเดือน ลดลง ๒ ใน ๓ เหลือเพียง 50 โรงงานต่อเดือน สวนทางอย่างแรงกับคำบอกเล่าของปิติ ดิษยทัต ผู้ช่วยผู้ว่าการแบงก์ชาติ ที่ให้ข้อมูล… มีจำนวนการเปิดกิจการราว 4,000-5,000 ต่อเดือน และปิดกิจการราว 1,000 ต่อเดือน จำนวนการเปิดกิจการ มากกว่าจำนวนการปิดกิจการตั้ง ๔-๕ เท่า….เชื่อ KKP Research แล้วเครียด-เชื่อ ปิติ ดิษยทัต แล้วสบายใจดี @@

ปิดท้ายสวนข่าววันนี้…กรณีผัวนักร้องปะฉะดะกับเมีย แบบฉายหนังกลางแปลงอวดสำแดงรายได้เกทับบลั๊ฟแหลกกันอุตลุด สุดท้ายหนีไม่พ้น”ซวยหมู่” โดนสรรพากร ตรวจสอบความถูกต้องในการเสียภาษี แถมอาจซวยสถานหนักถึงขั้นเป็น”จำเลย”คดีภาษี โทษฐานเสกเงินได้ เป็นเงินยืม จงใจหลบเลี่ยงการเสียภาษี….พฤติกรรมแบบนี้สรรพากรช้อบชอบ @@

ฮูก ตาตี่

สวนข่าวประจำวันอังคารที่ ๑๑ มิ.ย. ๒๕๖๗ ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะโรง

เอ็นเกมปิดประตูสู่ฟุตบอลโลก ๒๐๒๖ ที่อเมริกาเหนือไปเรียบร้อย สำหรับทีมชาติไทย ทั้งที่ทำประตูเอาชนะสิงคโปร์ไปได้ ๓:๑ แต่ยังดีไม่พอที่จะคว้าตั๋วได้ไปต่อ…@@

สุดสลดกับโศกนาฏกรรมยามฟ้าสาง..ไฟไหม้โซนสัตว์เลี้ยง ตลาดนัดสวนจตุจักร ย่างสดสารพัดสัตว์เลี้ยงตายทั้งเป็นนับพันตัว…เหตุเกิดหลังคำสั่งย้ายข้าราชการระดับสูงใน กทม.มาดูแลงานตลาดนัด @@

แซ่บอีหลี เด็ดสะระตี่..ตระกูล วินิจนัยภาค อดีตอัยการสูงสุด ลูกผู้ชายตัวจริงโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ความว่า “ขอยืนยันด้วยเกียรติของลูกผู้ชายว่า ในฐานะเป็น อสส. ในขณะนั้น ซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบคดีอาญานอกราชอาณาจักรตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 20 ไม่เคยมีใครสั่ง ข่มขู่ โน้มน้าว ชักจูง ให้ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการสอบสวนครับ”… เจอดอกนี้เข้าไป “เปรตมนุษย์” ไอ้ตัวที่ถนัดแหกปากเห่าหอนป้ายขี้ใส่คนอื่น เพียงแค่”กูและลูกหลานกูรอด” คงครางเอ๋งเอ๋ง น้ำลายหยดติ๋ง @@

ข่าวดีค่ายบีอีเอ็ม ผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน…ที่ประชุม ครม.เปิดไฟเขียวขยับราคาจากเดิมได้ ๑-๒ บาท จาก ๑๗-๔๓ บาท เป็น ๑๗-๔๕ บาท ตั้งแต่วันที่ ๓ ก.ค.ต่อเนื่องไป ๒๔ เดือน…หลังจากนั้นค่อยมาว่ากันใหม่ @@

นักเล่นเต็ง-โต๊ดเตรียมตัว เตรียมตังค์แทงหวย ๓ ตัวรัฐบาล โดยสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล สนนราคาใบละ ๒๐ บาท ออกรางวัลทุกวันที่ ๑ และ ๑๖ ของเดือนเหมือนล็อตเตอรี่…รัฐบาลไฟเขียวเรียบร้อย กะว่าจะมีนักเสี่ยงโชคเป็นลูกค้าไม่น้อยกว่า ๔๐ ล้านใบต่องวด คิดเป็นรายได้เข้ากองสลากฯ งวดละ ๘๐๐ ล้านบาท เดือนละ ๑,๖๐๐ ล้านบาท…ปีละ ๑๙,๒๐๐ ล้านบาท @@

ปิดท้ายสวนข่าววันนี้…คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ๑๗ คน-คณะกรรมการกำกับสำนักงานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ๑๐ คน-คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ อีก ๑๔ คน จะรับผิดชอบยังไง-จัดการยังไง กับข้อมูลส่วนบุคคล ผู้สมัคร ส.ว.กว่า ๒ หมื่นรายชื่อที่รั่วไหลออกไป…หรือว่าคณะกรรมการฯทั้งหลายรับเฉพาะค่าตอบแทนเท่านั้น !!!@@

ฮูก ตาตี่

สวนข่าวประจำวันจันทร์ที่ ๑๐ มิ.ย. ๒๕๖๗ ขึ้น ๔ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะโรง

กกต.ใส่เกียร์เดินหน้าลุยเลือกตั้ง ส.ว.แบบถูลู่ถูกังผ่านไปแล้ว ๒ รอบ เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๙ มิ.ย.ที่ผ่านมา…ทิ้งร่องรอยบาดแผลเหวอะหวะเฟะฟะเกลื่อนสนาม @@

หลายคนยกย่องให้การเลือกตั้งส.ว.เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๙ มิ.ย.เป็นการเลือกตั้ง”มั่วที่สุด-เละเทะที่สุด-ไร้ระบบระเบียบที่สุด” ไม่มีกำหนดเวลาเปิด-ปิดหีบบัตรเลือกตั้ง ทั้งรอบแรก เลือกกันเองในกลุ่ม และรอบ ๒ เลือกไขว้…ทั้งหมดเป็นไปตามอัธยาศัยตามอำเภอใจสั่งมา เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น…@@

แสนสนุกสุดหรรษาเลือกตั้ง ส.ว.ครั้งประวัติศาสตร์ เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยยังขอให้ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ลงลายมือชื่อเป็นพยานรับรองเอกสารในหน่วยเลือกตั้ง ทั้งที่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง เป็นผู้มีส่วนได้-เสียกับการเลือกตั้ง…อย่างนี้ก็มีด้วย @@

ยิ่งไปกว่านั้นการเลือกตั้ง ส.ว.คราวนี้ ยัง”ปิดหูปิดตาปิดลับที่สุด”…ห้ามนักข่าวเข้าสังเกตการณ์ในหน่วยเลือกตั้งเด็ดขาด ผู้สมัครรับเลือกตั้ง เข้าพื้นที่เลือกตั้งแล้ว ไม่เพียงต้องนำอุปกรณ์สื่อสารฝากเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งเท่านั้น ยัง”ถูกกักบริเวณ” ห้ามออกจากพื้นที่เลือกตั้ง โดยมีตำรวจ-อส.คอยเฝ้าระวังปิดทางเข้า-ออก แต่ภายในพื้นที่เลือกตั้งปล่อยให้เดินกันเพ่นพ่านขวั่กไขว่ ไม่ต่างอะไรกับตลาดนัด…แนะนำตัวกันโจ่งครึ่ม แต่ฮั้วหรือไม่ฮั้ว ไม่รู้ซินะ@@

ไม่ว่าการเลือกตั้ง ส.ว.รอบอำเภอจะมอมแมมยังไง ก็ผ่านไปแล้ว แต่ระหว่างรอคิวเลือกรอบจังหวัด เริ่มมีข้อความออนไลน์แพร่สะพัด “ใบเสร็จค่าสมัครเลือกตั้ง มีค่าอย่าทิ้ง”…เก็บรักษาไว้ให้ดี จะได้ไม่ต้องตีตั๋วซ้ำ @@

ปิดท้ายสวนข่าววันนี้…ส่องบทสรุปการประชุม ครม.เศรษฐกิจ ครั้งที่ ๒ ยังไม่พ้นสะลึมสะลือ ละเมอเพ้อฝันปั่นเป้า จีดีพี จาก ๒.๔% เด้งไปแตะ ๓% ด้วยการปั๊มรายได้ท่องเที่ยว-กระตุ้นการลงทุนเอกชน-เร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนภาครัฐ….ตื่นเถิดหนา อายนกกามันบ้างนะรัฐบาลที่เคารพ @@

ฮูก ตาตี่

สวนข่าวประจำวันศุกร์ที่ ๗ มิ.ย. ๒๕๖๗ ขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะโรง

กกต.มีมติเอกฉันท์เดินหน้าลุยไฟจัดเลือกตั้งส.ว.ตามไทม์ไลน์เดิม ไม่มีการเว้นวรรครอฟังคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ เริ่มจากระดับอำเภอ วันอาทิตย์ที่ ๗ มิ.ย.นี้เป็นต้นไป…เป็นไงเป็นกัน @@

พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข รรท.รองผบ.ตร.และว่าที่ผบ.ตร. มอบพล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผช.ผบ.ตร.ทำหน้าที่ประธานศูนย์อำนวยการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยการจัดการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ระดมกำลังตำรวจ ๒ หมื่นนาย ดูแลการเลือกตั้งส.ว.ทั่วประเทศ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย…ทราบแล้วเปลี่ยน @@

ทำงานรวดเร็วทันใจ…ณัฐพงศ์ ดิษยบุตร รองปลัด กทม.และผอ.ศูนย์ปฏิบัติการติดตามการต่อต้านการทุจริตของกรุงเทพมหานคร (ศตท.กทม.) รายงานผลตรวจสอบการจัดซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสศูนย์กีฬา ๕ โครงการ ที่ทำร่วมกับ ปปช.พบมีมูลที่ส่อการทุจริต ผิดพ.ร.บ.ฮั้ว เสนอให้ตั้งกรรมการสอบสวน เพื่อดำเนินการทางวินัยและอาญา…@@

อาถรรพ์จัดซื้ออุปกรณ์ฟิตเนส ของสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กทม. ราคาแพงระยับ ปลัด กทม.วันทนีย์ วัฒนะ สั่งย้าย สมบูรณ์ หอมนาน รองปลัด กทม.พ้นจากการคุมสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว ที่กำลังอื้อฉาว ไปคุมการพาณิชย์ของกทม.-บริษัทกรุงเทพธนาคม-สำนักประชาสัมพันธ์-สำนักสิ่งแวดล้อม….ไม่รู้เป็นการลงโทษ หรือ ตบรางวัล แต่ดูทรงแล้วเหมือนสะดุดลู่วิ่ง คะมำตกลงไปในเหมืองทองคำ @@

ความเคลื่อนไหวในอาณาเขต กทม.ตอนนี้ น่าจับตายิ่งนัก..ล่าสุดสภากทม.ได้สุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา สก.เขตลาดกระบัง เป็นประธาน-วิพุธ ศรีวะอุไร สก.เขตบางรัก เป็นรองประธานคนที่ ๑ ทั้ง ๒ คนล้วนสังกัดพรรคเพื่อไทย และขึ้นตรงกับ”คุณหนูเล็ก”แห่งบ้านจันทร์ส่องหล้า ขณะที่รองประธานสภา กทม.คนที่ ๒ เป็นของ ฉัตรชัย หมอดี สก.เขตบางนา จากพรรคก้าวไกล…มีหวังได้เถิดเทิงทิงนองนอยกันหนุบหนับนุงนังตังค์กระจาย @@

ปิดท้ายสวนข่าววันนี้…ค่ายซูซูกิ ค่ายรถยนต์รายล่าสุด ประกาศปิดไลน์ผลิตในเมืองไทย ปรับโมเดลธุรกิจเป็นแบบ”ซื้อมา-ขายไป” ตามรอยค่ายซูบารุ ทำเอารัฐบาลเกิดอาการผวาดผวาหวั่งเกรง การปิดโโรงงาน-ย้ายฐานการผลิต จะส่งผลกระทบ คนงานโรงงานประกอบรถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์แบบเก่า เกือบ ๔ หมื่นคน เสี่ยงตกงาน….ดอกผลแห่งนโยบาย”อุ้มรถอีวี-ขยี้รถน้ำมัน” เคราะห์กรรมตกหนักที่คนงานต้องตกงาน @@

ฮูก ตาตี่

สวนข่าวประจำวันพฤหัสบดีที่ ๖ มิ.ย. ๒๕๖๗ แรม ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ปีมะโรง

เลือกตั้ง ส.ว.ออกอาการป่วย”โรคเลื่อน” กกต.จ่อชลอการเลือกตั้งรอบแรกระดับอำเภอวันอาทิตย์ที่ ๙ มิ.ย.นี้ออกไปก่อน รอผลการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญจะได้ไปต่อหรือไม่ เกรงดันทุรังพังไม่เป็นท่า @@

ศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สส.กทม.ก้าวไกล แฉ-เพจชมรม Strong ต้านทุจริตประเทศไทย กระพือ กทม.จัดซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสศูนย์กีฬาวารีภิรมย์-ศูนย์กีฬาวชิรเบญจทัศ แพงโคตรโคตร ลู่วิ่ง ราคา ๗๕๙,๐๐๐ บาท สูสีราคารถนิสสันคลิก กดดันผู้ว่าฯชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ และคณะผู้บริหาร กทม.ต้องเปิดแถลงข่าว แต่จับความตามถ้อยแถลงแล้ว อยากร้องไห้หนักมาก…”การจัดซื้อจัดจ้าง ไม่ผ่านผู้ว่าฯ แต่จะเป็นข้าราชการประจำที่ทำ…”หรือ ”…การจัดซื้อจัดจ้างเป็นไปตามพ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้าง มีการทำทีโออาร์ ผ่านกระบวนการ e-bidding เรียบร้อยแล้ว…” หรือ ”…โครงการนี้พบการทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้างตั้งแต่ปี ๒๕๖๕ ก่อนที่คณะผู้บริหารชุดปัจจุบันจะเข้ามาทำงาน…” สรุปรวบยอดรวมความได้ว่าถามหมูได้หมา-ถามไก่ตอบไข่ การจัดซื้อจัดจ้างถูกต้องตามกฏหมาย และสำคัญที่สุดคือ “พวกกูไม่เกี่ยว”…@@

ยิ่งฟังวรรคทองจากปากผู้ว่าฯกทม.ที่ได้รับคะแนนเสียงเลือกตั้งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ “ยืนยันผมโปร่งใส เหมือนตอนนี้ยืนแก้ผ้าให้ดูได้เลย”…แล้วไงอ้างแบบนี้แล้วจะลอยตัวทำไม่รู้ไม่ชี้งั้นเหรอ ?? @@

เวลาเปลี่ยนไม่ทันข้ามวัน ผู้ว่าฯชัชชาติ คงได้สติสัมปชัญญะกลับคืน ออกคำสั่งขึงขังตั้งคณะกรรมการป้องกันการทุจริต กทม.(คปท.กทม.) และกำชับประสานความร่วมมือสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ร่วมตรวจสอบรายการจัดซื้ออุปกรณ์ศูนย์กีฬาวารีภิรมย์-ศูนย์กีฬาวชิรเบญจทัศ พร้อมสั่งตรวจสอบสัญญาจัดซื้อจัดจ้างเพิ่มเติมอีก ๓ ศูนย์กีฬาคือศูนย์กีฬาอ่อนนุช-ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา-ศูนย์กีฬามิตรไมตรี…ป่านนี้บรรดาเปรต-กระสือ-กระหังที่แอบสูบงบหลวงเข้าพกเข้าห่อน่าจะตะเกียกตะกายหนีเอาตัวรอดจ้าละหวั่น @@

องค์การอนามัยโลก เตือนภัยโรคไข้หวัดนกอุบัติใหม่ สายพันธ์ุ H๕N๒ คร่าชีวิตคนที่เม็กซิโกไปแล้ว ทั้งที่ไม่มีประวัติสัมผัสสัตว์ปีก…ทราบแล้วเปลี่ยน @@

ปิดท้ายสวนข่าววันนี้…คณะกมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพ.ร.บ.นิรโทษกรรม สภาผู้แทนฯ ได้ข้อสรุปเบื้องต้น โฟกัส ๗ ประเด็น ๑)นิยามแรงจูงใจทางการเมือง ๒).ประเภทคดีที่มีแรงจูงใจทางการเมือง ๓).กระบวนการนิรโทษกรรม ๔).กลไกการนิรโทษกรรม ๕).องค์ประกอบคณะกรรมการนิรโทษกรรม ๖)มาตรการเยียวยา ๗).มาตรการป้องกันการทำผิดซ้ำและสร้างความปรองดอง…ไม่เกี่ยวอะไรกับนิรโทษกรรมสุดซอย-นิรโทษกรรมเหมาเข่ง-นิรโทษกรรมพ่วงคดี ๑๑๒ @@

ฮูก ตาตี่