เรียบร้อยตามคำวินิจฉัยคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ด้วยมติ”เอกฉันท์” ระบุ”การเสนอร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฏหมายอาญา เพื่อยกเลิกประมะมวลกฏหมายอาญา ม.๑๑๒ เป็นการใช้สิทธิ หรือ เสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข”…อังเว-เอวัง”พิธา-ก้าวไกล”เห็นอยู่รำไร @@

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล สะท้อนความคิดหลังรับทราบคำวินิจฉัย บอกกังวลในนิยามของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข กังวลในเรื่องขอบเขตระหว่างนิติบัญญัติกับศาลรัฐธรรมนูญว่าอะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้…@@

ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคพูดมั่ง..ต่อไปนี้หมายความว่า ถ้ามีการเสนอกฏหมาย ศาลรัฐธรรมนูญสามารถที่จะมาวินิจฉัยความชอบด้วยรัฐธรรมนูญเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่ต้องให้ผ่านวาระที่สามก่อนใช่หรือไม่ ตั้งแต่วันแรก วันนำเสนอ ระหว่างเสนอ ระหว่างกรรมาธิการพิจารณา ระหว่างวาระที่สอง ระหว่างยังไม่เสร็จวาระที่สาม ได้หมด….อาจจะส่งผลกระทบต่อปัญหาในอนาคตได้…@@

เหลียวไปดูมุมคิดอ.ป๊อก-ปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ และเลขาธิการคณะก้าวหน้ากันหน่อย…ศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้สั่งห้ามแก้โดยเด็ดขาด ศาลรัฐธรรมนูญสั่งพรรคก้าวไกล ห้ามยกเลิก และห้ามแก้โดยวิธีการซึ่งมิใช่กระบวนการนิติบัญญัติโดยชอบได้….การแก้ม.๑๑๒ ยังพอทำได้อยู่ เพียงแต่แก้เพื่อย้ายหมวด-ไม่ได้ แก้เพิ่มเหตุยกเว้นความผิด ยกเว้นโทษ-ไม่ได้ แก้ให้เป็นความผิดยอมความได้-ไม่ได้ และกำหนดให้สำนักพระราชวังเป็นผู็ร้องทุกข์กล่าวโทษ-ไม่ได้…แก้ม.๑๑๒ เพื่อลดโทษ-ได้ ไม่มีโทษขั้นต่ำ-ได้ เพื่อแยกฐานความผิดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น แสดงความอาฆาตมาดร้ายออกจากกันได้ และกำหนดให้หน่วยงานของรัฐสักหน่วยงานหนึ่งที่มิใช่สำนักพระราชวังทำหน้าที่ร้องทุกข์กล่าวโทษได้…ว่าไป @@

นักร้องอาชีพต้องคดีตบทรัพย์กบดานเงียบ สบโอกาสนักร้องชำนาญการวาดลวดลายเสือปืนไว…เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ผู้เคยเขี่ยลูกเปิดเกมเช็คบิลพิธาถือหุ้นไอทีวี ประกาศกดปุ่ม”ยุบพรรคก้าวไกล” โดยอ้างอิงคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ระบุการแก้ไขประมวลกฏหมายอาญามาตรา ๑๑๒ เข้าข่ายล้มล้างการปกครองฯเข้าข่ายความผิดตามมาตรา ๙๒ แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง…ก่อนหน้านี้เคยร้องไปแล้ว ๒ รอบ แต่แป้ก@@

ปิดท้ายสวนข่าววันนี้…ชาญวิทย์ อิทธิวัฒนะ ผจก.สาขาประจำประเทศไทย บริษัทเช็คพอยท์ซอฟท์แวร์เทคโนโลยี เปิดข้อมูล”ชวนช็อค”..องค์กรในประเทศไทยถูกโจมตีทางไซเบอร์เฉลี่ย ๑,๘๙๒ ครั้ง/สัปดาห์ ในช่วงครึ่งหลังปี ๒๕๖๖ สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั้งโลกถึง ๘๒% โดยหน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานความมั่นคง หน่วยงานภาคการเงินการธนาคาร เป็นเป้าหมายการถูกโจมตีหนักสุด…สกมช.ทราบแล้วโปรดจัดการด่วนจี๋…@@

ฮูก ตาตี่