สวนข่าว ประจำวันพฤหัสบดีที่ ๒๖ ต.ค.๒๕๖๖ ขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีเถาะ

…สถิติการสูญเสียชีวิตคนไทยในสมรภูมิสงครามตะวันออกกลาง สะสมยอดเพิ่มขึ้นเป็น ๓๓ รายเข้าไปแล้ว ขอแสดงความเศร้าเสียใจมายังครอบครัวผู้สูญเสียทุกครอบครัว…@@
พิษหนี้สินและความยากจนฤทธิ์ร้ายกาจ แรงงานไทยในสมรภูมิสู้รบตะวันออกกลาง รู้เต็มอกว่า”เสี่ยงตาย” แต่หนี้สิน-ความจนที่บีบคั้น ต้องยอมเสี่ยงตาย แลกเงินไปแก้หนี้-แก้จน…ความจริงของชีวิตโคตรบัดซบเป็นเช่นนี้แล @@
แวะไปส่องตลาดหุ้นซะหน่อย…วันนี้ดัชนีดิ่งเหวกว่า ๓๐ จุด คิดเป็นกว่า ๒ % ด้วยมูลค่าซื้อขายกว่า ๔.๕ หมื่นล้านบาท ทำเอา ภากร ปิตธวัชชัย ผู้จัดการตลาดหุ้นถึงกับต้องตั้งโต๊ะยืนยัน ดัชนีราคาหุ้นตกต่ำตามภาวะตลาดทั้งภูมิภาค และเหตุแห่งความตกต่ำล้วนเป็นปัจจัยต่างประเทศ แต่เตือนนักลงทุนดูข้อมูล และติดตามผลกระทบให้ดี…ตัวใครตัวมันว่างั้นเถอะ @@
อาการทรุดตัวของดัชนีราคาหุ้นวันนี้ ดัชนีราคาหุ้นกลุ่มวัสดุอุตสาหกรรมและเครื่องจักร ไหลลงหนักหนาสาหัสสุดถึง ๑๒.๖๐ % คิดเป็นติดลบมากกกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดถึง ๖ เท่าตัว @@
จัดเป็นผลงาน”โบว์ดำ” ของรัฐบาลเศรษฐาจะได้มั้ย ? ๑ เดือนแรกของการทำหน้าที่ มูลค่าความมั่งคั่งของตลาดหุ้นไทย อันตรธานหายวับไปแล้ว กว่า ๑ ล้านล้านบาท คิดเป็นกว่า ๒๘ % ของกรอบวงเงินงบประมาณปี ๒๕๖๗ จำนวน ๓.๔๘ ล้านล้านบาท…มิน่าเซียนหุ้นน้อยใหญ่หน้าซีดหน้าเซียวกระเป๋าแห้งเหี่ยวไปตามกัน @@
หมกมุ่นเรื่องหุ้นต่ออีกนิด..ชั่วโมงเทรดหุ้น ส่อเค้าขยายเพิ่มขึ้นวันละ ๑ ชั่วโมง ช่วงเช้าจาก ๑๐.๐๐-๑๒.๓๐ น. เป็น ๐๙.๓๐-๑๒.๓๐ น. ช่วงบ่ายจาก ๑๔.๓๐-๑๖.๓๐ น.เป็น ๑๔.๐๐-๑๖.๓๐ น…ตามสั่งนายกฯเศรษฐา @@
ลวดลายลีลายังแพรวพราว..พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สวมบท”นายกรัฐมนตรีนอกทำเนียบ” ข้ามน้ำข้ามทะเลตั้งวงระดมสมองซอฟต์พาวเวอร์พันธ์ุไทยถึงนิวยอร์ค สหรัฐ สะสมข้อมูลเตรียมพร้อมปล่อยแสงสำแดงฤทธิ์ซอฟต์พาวเวอร์ไทยให้ระบือลือลั่นสนั่นโลกา…@@
ร่ายยาวข้ามวัน..พรุ่งนี้ (๒๗ ต.ค.) ยามไก่โห่ นายกฯเศรษฐา ทวีสิน นิมนต์พระสงฆ์ไปทำบุญเป็นการส่วนตัว ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนเข้าปักหลักพักค้างคืนตามที่เคยพลั้งปากพูดไว้..ยามบ่าย ไปร่วมแสดงความยินดีกับ”หัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่”…นับวันเท้านายกฯเศรษฐา ไม่ว่าจะใส่ถุงเท้าสีอะไร แต่น่าจะ”เท้งเต้ง” ลอยโทงเทงเหนือพื้นมากขึ้นทุกที @@
ฮูก ตาตี่

สวนข่าว ประจำวันพุธที่ ๒๕ ต.ค.๒๕๖๖ ขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีเถาะ

…ขอชื่นชมในความแซ่บของผู้ชายชื่อ”ชาดา ไทยเศรษฐ์” มท.๒ กับคำสั่งเด็ดขาดให้ลูกเขย”ต้องลาออก” พ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลตลุกดู่ อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี ทันที…ต้องขอกราบงามๆมา ณ โอกาสนี้ @@
กระซวกแรงจาก มท.๑ อนุทิน ชาญวีรกูล…นี่แหละรางวัลสำหรับ”คนโง่+เซ่อ” ย่อมเป็นเหยื่อของตำรวจ ที่ฉลาด สามารถจับโป๊ะกลโกงตบทรัพย์หลายแสนบาทได้..คาหนังคาเขา @@
ดิจิทัลวอลเล็ตเกิดอาการกระเพื่อมเล็กๆ..คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ตกผลึกเบื้องต้น ๔ ประการ ๑).“พลเมืองไทยอายุ ๑๖ ปีขึ้นไป ไม่ได้รับแจกถ้วนหน้า” แต่จะแจกให้คนที่ควรได้รับแจก ๒).แหล่งที่มาของเงินมาจากงบประมาณแผ่นดินปี ๒๕๖๗ เป็นหลัก ๓).ไม่แตะต้องยืมเงินแบงก์ออมสิน ๔).ดีเดย์แจกเงินเลื่อนจากก.พ.๒๕๖๗ ไปเป็น พ.ค.๒๕๖๗ @@
“อุ๊งอิ๊ง” แพททองธาร ชินวัตร สวมหัวโขนประธานประชุมนัดปฐมฤกษ์ คณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ เคาะตั้งอนุกรรมการ ๑๒ คณะ ๑)แฟชั่น ๒).หนังสือ ๓).ภาพยนตร์ ๔).ละครและซีรีส์ ๕).เทศกาล ๖).อาหาร ๗).ออกแบบ ๘).ท่องเที่ยว ๙).เกม ๑๐).ดนตรี ๑๑).ศิลปะ ๑๒).กีฬา ตั้งเป้า”ควิกวิน” ต้องเสกให้เห็นผลภายใน ๖ เดือน…@@
ค่ำคืนนี้นายกฯเศรษฐา ทวีสิน แต่งตัวย้อนยุคออเจ้า กลมกลืนกับซีรีส์”พรหมลิขิต” ไปดูหนัง”สัปเหร่อ”….เข้ากันได้ดีมั่กๆ @@
ปิดท้ายสวนข่าววันนี้ ส่องไฟสงครามตะวันออกกลางกันหน่อย…สถิติพี่น้องไทยตายเพิ่มอีก ๑ เป็น ๓๑ ราย ส่วนสถานการณ์ส่อเค้าเลวร้ายหนักขึ้น เมื่อรัฐบาลอิสราเอล เปิดศึกพิพาท ยูเอ็น ถึงขั้นไล่ตะเพิด เลขาธิการยูเอ็น อันโตนิโอ กูเตาเรซ ออกจากตำแหน่ง แถมปฏิเสธวีซ่า ไม่อนุญาตให้ มาร์ติน กริฟฟิธส์ รองเลขาธิการยูเอ็น ด้านมนุษยธรรม เข้าประเทศ ด้วยเหตุโมโหโกรธาที่เลขายูเอ็น บังอาจกล่าวหาอิสราเอล กระทำการละเมิดมนุษยธรรมในฉนวนกาซ่าอย่างร้ายแรง…@@
ฮูก ตาตี่

สวนข่าว ประจำวันอังคารที่ ๒๔ ต.ค.๒๕๖๖ ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีเถาะ

…วันนี้วันครบรอบ ๗๘ ปีการสถาปนาองค์การสหประชาชาติ เพื่อทำหน้าที่รักษาสันติภาพ และความมั่นคงระหว่างประเทศ ขณะที่ไฟสงครามในตะวันออกกลางยังลุกโชนโชติช่วง…เย้ยหยามหยันฉีกหน้าองค์การสหประชาชาติไม่มีชิ้นดี @@
ปฏิบัติการลำเลียงความช่วยเหลือเข้าไปเยียวยาเหยื่อสงครามในฉนวนกาซ่าขององค์การสหประชาชาติ ขอภาวนาอย่าให้ซ้ำรอย”โครงการน้ำมันเพื่ออาหาร” (Oil for Food Program) เมื่อครั้งสงครามอ่าวเปอร์เชีย ที่มีขบวนการกว่า ๔,๕๐๐ บริษัท รวมทั้ง”นักข่าว”สมคบกันฉ้อฉลคดโกงสะบั้นหั่นแหลก นับหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามที่ปรากฏในรายงานของคณะผู้ตรวจสอบพิเศษ นำโดยพอล โวล์คเกอร์ อดีตประธานธนาคารกลางระดับตำนานของสหรัฐ ซึ่งสรุปผลการตรวจสอบเอาไว้ยาวเหยียด ๖๒๓ หน้า…@@
เฮ หรือโฮดี?..มติที่ประชุม ครม.วันนี้ เคาะสลับวันหยุดชดเชยเทศกาลส่งท้ายปีเก่า๒๕๖๖ ต้อนรับปีใหม่ ๒๕๖๗ จากอังคารที่ ๒ ม.ค.๒๕๖๗ เป็น ศุกร์ที่ ๒๙ ธ.ค.๒๕๖๖…หมดสิทธิ์ฉลองปีใหม่แบบหลุดโลก ไม่งั้นได้คลานเข้าทำงานอังคารที่ ๒ ม.ค.กันแบบสลึมสลือแหงแก๋ @@
ที่ประชุม ครม.วันนี้ กระทรวงพาณิชย์ รายงานตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ก.ย.เตาะแตะอยู่แค่ ๐.๓๐% ลดลงจากเดือนส.ค.ถึง ๐.๕๘ % หรือคิดเป็น”ลดลงเกือบ ๒ เท่าตัว” แถมยังเป็นอัตราเงินเฟ้อต่ำสุดในอาเซียน..โอกาสเดียวกันนี้ยังรายงานการปรับลดค่าเฉลี่ยอัตราเงินเฟ้อปี ๒๕๖๖ จาก ๑.๕% เหลือเพียง ๑.๓๕%…แบงก์ชาติว่าไง? ไม่คิดจะทุบอัตราดอกเบี้ยลงมา ช่วยบรรเทาภาระหนี้ครัวเรือน-หนี้ธุรกิจมั่งเลยหรือ ???@@
พิษร้ายภัยดอกเบี้ยแพง กระแทกตลาดรถอย่างแรง…สุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สอท.ปรับลดเป้าผลิตรถขายในประเทศปีนี้ลง ๕ หมื่นคัน จาก ๘๕๐,๐๐๐ คัน เหลือ ๘ แสนคัน ต่ำกว่าปีที่แล้ว ๑.๗๘% เหตุไฟแนนซ์ ดันยอดเงินดาวน์รถพุ่งขึ้นสูงลิ่ว ๓๐-๔๐% ตัดปัญหาหนี้เสีย…อยากมีรถ ไม่มีเงินดาวน์ ๓๐-๔๐% ของราคารถ ทุกอย่างหยุด @@
ฮูก ตาตี่

สวนข่าว ประจำวันจันทร์ที่ ๒๓ ต.ค.๒๕๖๖ ขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีเถาะ

…วันนี้ตรงกับ”วันปิยะมหาราช”..วันน้อมรำลึกถึงวันเสด็จสวรรคต พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ล้นเกล้ารัชกาลที่ ๕ พระมหากษัตริยาธิราชเจ้าที่ทรงเป็นที่รักเคารพสูงยิ่งของพสกนิกร ผู้ทรงเลิกทาส โดยปราศจากการสูญเสียชีวิตเลือดเนื้อ และทรงเปี่ยมด้วยพระมหากรุณาธิคุณอย่างอเนกอนันต์ต่อปวงชนชาวสยาม…@@
การสู้รบระหว่างปาเลสไตน์ฮามาส กับ อิสราเอล ผ่านไปแล้ว ๑๗ วัน ชีวิตผู้คนถูกสังเวยไปแล้วกว่า ๖,๕๐๐ คน ส่วนใหญ่กว่าครึ่งของเหยื่อที่สังเวยชีวิตคือ “เด็ก-ผู้หญิง”…@@
วัฒนา ธนาศักดิ์เจริญ ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคใต้ หอการค้าไทย สารภาพ เกือบ ๑ เดือนของมาตรการ”ฟรีวีซ่า”ของรัฐบาล ที่หวังจูงใจนักท่องเที่ยวจีน-คาซัคสถาน แต่นักท่องเที่ยวจีน-คาซัคสถาน กลับเดินทางเข้ามา”เบาบาง” เปรียบเทียบกับปีที่แล้ว ยอดจองหายไป”ครึ่งต่อครึ่ง”… เหตุเกิดจากกรณียิงกันตายในห้างสรรพสินค้าใจกลางกทม.-สงครามตะวันออกกลาง…มาตรการนี้ของรัฐบาล”ไม่ปัง แต่แป๊กอย่างจัง” @@
ยืนยันจากนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน เป็นครั้งที่นับไม่ถ้วน แจกแน่ดิจิทัลวอลเล็ต ๑ หมื่นบาท แต่กำหนดแจกที่เคยพูดจาหนักแน่น ๑ ก.พ.๒๕๖๗ ชักออกอาการ “เป๋โลเล” @@
รัฐบาลเปิดปฏิบัติการ”ขี่กระแสสัปเหร่อ” ปลุกปั้นผลงานซอฟต์พาวเวอร์ กวาดต้อน ครม.ดูหนัง”สัปเหร่อ” รอบ ๑๙.๔๕ น. พุธที่ ๒๕ ต.ค.นี้ที่สยามพารากอน..มีเศรษฐา ทวีสิน ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ว่าด้วยซอฟต์พาวเวอร์ และรองประธานฯแพทองธาร ชินวัตร ร่วมชมด้วย….หวังว่าพลังหนังสัปเหร่อ จะติดเทอร์โบให้ซอฟต์พาวเวอร์ไทยไปฮอลลีวู้ด เทียมหน้าเทียมตาเกาหลีใต้ได้ซะที…@@
ปิดท้ายสวนข่าววันนี้ ด้วยเรื่องราว”นักโทษเทวดา” ผู้อยู่เหนือกฏหมาย..ต้องโทษจำคุก แต่ไม่เคยต้องอยู่ในคุก ด้วยเหตุ”ป่วยเรื้อรัง” จำเป็นต้องรับการรักษาและพักฟื้นในโรงพยาบาล โดยที่คณะแพทย์ผู้ทำการรักษาไม่เคยเปิดเผยตัวตน…นี่แหละความโปร่งใส-เป็นธรรม แบบไทยไทย @@
ฮูก ตาตี่

ชวนหาเรื่อง..เที่ยว:ไปเที่ยวอัมพวากันเถอะ…

หนีความวุ่นวายจากกรุงเทพฯ ไปดื่มด่ำความสดชื่นรื่นรมย์กับวิถีชีวิตริมสายน้ำที่อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ใช้เวลาเดินทางแค่ประมาณ ๑๕๐ นาที…
ชีพจรอัมพวาวันนี้ หลังสร่างซาจากภัยวิกฤตโควิด หลุดพ้นจากการสูบดูดขูดรีดจากนักแสวงโชคต่างถิ่น…คืนสู่สถานะดินแดนอบอุ่นอบอวลด้วยมิตรไมตรีของชาวอัมพวาพันธุ์แท้
ดร.เกรียงไกร เกิดศิริ ซึ่งเป็นขุมพลังสำคัญเบื้องหลังงานละคร”พรหมลิขิต” ในฐานะหัวหน้าโครงการวิจัยสมุทรสงครามอยู่ดี ม.ศิลปากร โดยการสนับสนุนจากหน่วยบริหารและการจัดทุน ด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) ได้ใช้ชุดความรู้จากงานวิจัย ไปช่วย”รีเซ็ท” อัมพวา ปลุกจิตวิญญาณอัมพวาให้กลับคืนความมีชีวิตชีวา บนฐานนิเวศวัฒนธรรม นิเวศสิ่งแวดล้อม ที่เป็นต้นทุนที่อุดมสมบูรณ์อยู่ในพื้นที่อัมพวา…
กฤษฏี กลิ่นจงกล นายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลอัมพวา จ.สมุทรสงคราม ที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขชาวอัมพวาโดยกำเนิด ได้นำงานวิจัยเป็นเนวิเกเตอร์นำทางไปใช้จัดระเบียบใหม่ เพื่อฟื้นจิตวิญญาณหลากมิติของอัมพวา สร้างความอยู่ดี กินดี มีความสุขแก่ชาวอัมพวา โดยที่ชาวอัมพวามีส่วนร่วมคิดร่วมออกแบบ ร่วมดำเนินการไปด้วยกัน
อัมพวาวันนี้..วันต่อๆไป จะสวยสดใสด้วยความสุขของคนอัมพวา…คนรักอัมพวา ที่พร้อมแบ่งปันให้แก่ทุกคนที่มาเยี่ยมเยือน….
ชีวีสุขี…ที่อัมพวา!!!!

สวนข่าว ประจำวันศุกร์ที่ ๒๐ ต.ค.๒๕๖๖ ขึ้น ๖ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีเถาะ

…ในที่สุดดัชนีราคาหุ้นก็หลุดทะลุ ๑,๔๐๐ จุดจนได้ มาปิดที่ ๑,๓๙๙.๓๕ จุด ติดลบ ๒๓.๖๙ จุด คิดเป็น ๑.๖๖ % มูลค่าซื้อขาย ๕๒,๙๙๗.๗๒ ล้านบาท…@@
๕ กลุ่มหุ้นที่ปิดตลาดส่งท้ายวันหยุดยาวติดลบแซงหน้าดัชนีตลาดไปไกล ๑).กลุ่มกระดาษและวัสดุการพิมพ์ ติดลบ ๕.๓๑ % ๒). กลุ่มท่องเที่ยวฯ ติดลบ ๓.๔๐% ๓).กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิกส์ ติดลบ ๓.๓๐% ๔).กลุ่มปิโตรเคมีฯ ติดลบ ๓.๒๖% ๕).กลุ่มธุรกิจการเกษตร ติดลบ ๓.๐๑%…@@
รวยแล้ว-รวยอยู่-รวยอู้ฟู่ต่อไป คือผลกำไรกลุ่มธุรกิจธนาคารพาณิชย์ งวด ๙ เดือน เฟื่องฟูฟู่ฟ่าเป๋าตุงพุงปลิ้นกันถ้วนหน้า ด้วยอานิสงส์อัตราดอกเบี้ยที่แบงก์ชาติใจดีขึ้นแล้วขึ้นอีก ๘ รอบ จาก ๑.๕% เด้งขึ้นไป ๒.๕% สวนทางกับลูกหนี้ หน้าซีดหน้าเซียวหลังแอ่กหลังแอ่น จากภาระดอกเบี้ยกดทับซ้ำแล้วซ้ำเล่า…ใครจ่ายไหว กัดฟันกล้ำกลืนจ่ายไป-จ่ายไม่ไหว ถอดใจปล่อยเป็นหนี้เน่า รอวันถูกฟ้องบังคับคดียึดหลักประกันเลหลังขายทอดตลาดไป…@@
อยากรู้จัง แบงก์ชาติเคยรู้สึกสำนึกผิดมั่งมั้ย ? ทุกครั้งที่ขึ้นดอกเบี้ย หนุนกำไรแบงก์พาณิชย์โตมโหฬาร แต่ซ้ำเติมภาระหนี้สินลูกหนี้…แบงก์ชาติ ที่วิเคราะห์ประเด็นเศรษฐกิจสารพัด เคยแสดงผลวิเคราะห์ผลกระทบจากการขึ้นดอกเบี้ย ต่อสถานการณ์หนี้สินลูกหนี้บ้างมั้ย-กล้าๆทำหน่อยซิเรื่องแบบนี้ @@
สุรชัย กำพลานนท์วัฒน์-อารักษ์ ราษฏร์บริหาร ๒ ผู้ทรงคุณวุฒิที่มีประสบการณ์บริหารจัดการการเงินการลงทุนยาวนานกว่า ๓๐ ปี และเป็นวิทยากร”ชวนหาเรื่องปากท้องต้องสู้” พูดเรียกร้องแบงก์ชาติให้รีบตั้ง “บรรษัทบริหารจัดการทรัพย์สิน-เอเอ็มซี” มาเป็นกลไก”รีไซเคิลหนี้” จากระบบ ช่วยทั้งลูกหนี้-เจ้าหนี้ และปลดล็อคเศรษฐกิจให้เดินหน้า แต่”ไร้ปฏิกิริยาตอบสนอง”…น่าดีใจล่าสุดกระทรวงการคลัง สั่งแบงก์ออมสิน เร่งตั้ง “เอเอ็มอี” กวาดขยะหนี้จากระบบไปฟอกโดยไว ไม่ต้องรอแบงก์ชาติ และหวังว่าแบงก์ชาติ จะไม่ชักแม่น้ำทั้งห้าทักท้วงขัดขวางนะ…เสียงเรียกร้องของสุรชัย-อารักษ์ ไม่สูญเปล่าแล้ว-ชวนหาเรื่องปากท้องต้องสู้ ได้ทำประโยชน์แล้ว @@
ขี้ข้าบริวารหัวร้อนควันออกหูกันไปทำไมมีกับข้อวิพากษ์วิจารณ์ เครื่องแต่งกาย-รองเท้า-ถุงเท้า-อากัปกิริยางอก่องอขิงลุกลี้ลุกลน ของ”เจ้านาย” ในเมื่อทุกข้อวิจารณ์ล้วน”ความจริง”… ถ้าหงุดหงิดข้อวิจารณ์ ก็ปรับปรุงแก้ไขให้มันถูกกาลเทศะ-ถูกขนบประเพณีการแต่งกายที่ดี…ถ้าไม่รู้ ก็หาผู้รู้ที่แตกฉานด้านบุคลิกภาพมาชี้แนะซะ หรือหากคิดว่าไม่แต่งตัวแหกคอกแหวกแนว ไม่ใส่ถุงเท้าแฟนซีหลากสีแล้วโลกไม่จำ ก็เอาที่สบายใจไปเถอะ แต่ขี้ข้าทั้งหลายกรุณาอย่างี่เง่ากับข้อวิจารณ์ @@
ฮูก ตาตี่

คมคิด..ชวนหาเรื่องปากท้องต้องสู้สู่นโยบายแก้หนี้รัฐบาลคลังสั่งออมสินตั้งเอเอ็มซี:

และแล้วเสียงจากสติปัญญาและประสบการณ์จริงของคนกลุ่มเล็กๆในนาม”คณะชวนหาเรื่องปากท้องต้องสู้” ก็ได้รับการต่อยอดขยายผลสู่นโยบายแก้หนี้ของรัฐบาลอย่างเป็นรูปธรรม เมื่อมีคำสั่งให้ธนาคารออมสิน ไปจัดตั้ง”บรรษัทบริหารจัดการทรัพย์สิน”หรือ “Asset Management Corporation-AMC” ตามที่คุณสุรชัย กำพลานนท์วัฒน์ และคุณอารักษ์ ราษฏร์บริหาร 2 ผู้คร่ำหวอดในยุทธจักรการเงินไทยยาวนานกว่า ๓๐ ปี ได้เพียรเสนอแนะและเรียกร้องเอาไว้ในการจัดรายการ”ชวนหาเรื่องปากท้องต้องสู้” บนเพจ”ชวนหาเรื่อง”มาอย่างต่อเนื่อง หลายครั้งหลายครา ตั้งแต่สถานการณ์หนี้ส่ออาการเลวร้ายขั้นต้น กระทั่งทรุดหนักลงถึงขั้นวิกฤตอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้
ตามทัศนะของคุณสุรชัยและคุณอารักษ์ เห็นตรงกันว่าAMC คือเครื่องมือที่จะช่วยแก้สถานการณ์ความเลวร้ายของหนี้ทั้งฝ่ายลูกหนี้และเจ้าหนี้อย่างได้ผลดี อีกทั้งยังช่วยเปิดโอกาสให้สถาบันการเงิน สามารถปล่อยสินเชื่อกระตุ้นเศรษฐกิจได้คล่องตัวขึ้น ขณะเดียวกันก็ช่วยเปิดโอกาสให้ลูกหนี้สามารถเข้าถึงสินเชื่อใหม่ๆได้สะดวกขึ้น มีเงินลงทุน มีเงินหมุนเวียนไปขับเคลื่อนธุรกิจได้ดีขึ้น
ไม่ต้องซึมเศร้าเหงาหงอยสลึมสลือเรื้อรังอีกต่อไป….

สวนข่าว ประจำวันพฤหัสบดีที่ ๑๙ ต.ค.๒๕๖๖ ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีเถาะ

…ดิจิทัลวอลเล็ตยังอลเวงโขมงโฉงเฉงกันไม่เสร็จ…ยังคลำหาข้อสรุปไม่เจอะเจอ @@
จำชื่อนี้ไว้ให้ดี…ดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ ธปท.รายงานโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ที่ประชุมกมธ.การพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนฯ “ความจำเป็นต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมผ่านโครงการนี้ยังมีไม่มาก…ผลของโครงการต่อเศรษฐกิจอาจจะไม่ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย…” แปลกมหัศจรรย์ยิ่งนักทั้งที่ยังไม่รู้รายละเอียดใดๆของดิจิทัลวอลเล็ตซักนิด แบบนี้จะเรียกว่านั่งเทียนยกเมฆได้มั้ยนะ หรือว่าคนแบงก์ชาติมีญาณวิเศษ @@
ไฟสงครามตะวันออกกลางโชนแสงแรงกล้าหนักขึ้น…สถานฑูตสหรัฐในกรุงเบรุต ประเทศเลบานอน ที่มีชายแดนแนบชิดติดอิสราเอล “ถูกเผา” แบบเหนือความคาดหมาย…เคสนี้ยากนักที่สหรัฐจะกรรเชียงออกจากวงจรสงคราม..@@
เปิดหน้าเลือกข้างชัดเจน…กลุ่มนาโต้นำโดยสหรัฐ-อังกฤษ-เยอรมนี-ฝรั่งเศส แสดงตัวหนุนหลังอิสราเอลเต็มตัว…@@
ล่าสุด ริชี่ ซูนัค นายกรัฐมนตรีอังกฤษ บินด่วนเข้าอิสราเอล ให้กำลังใจ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ยืนยัน “We want you to win” @@
สมรภูมิสู้รบตะวันออกกลางแพร่กระจายขยายขอบเขตกว้างไกลต่อเนื่องจากงานแสดงหนังสือแฟรงค์เฟิร์ต ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในเยอรมนี ขยับเข้าสู่กลุ่มมหาวิทยาลัยระดับยอด ในสหรัฐ ที่รู้จักกันภายใต้การเรียกขาน “ไอวี่ลีค”(Ivy League) เมื่อบรรดาเศรษฐี มหาเศรษฐีเชื้อสายยิว ประกาศตัดเงินอุดหนุน-ถอนตัวจากบอร์ดมหาวิทยาลัย ด้วยเหตุไม่พอใจผู้บริหารมหาวิทยาลัย ไม่แสดงปฏิกิริยา”ประณามฮามาส-เลือกข้างอิสราเอล”…@@
“ฮาร์วาร์ด” คือ ๑ ในไอวี่ลีค ที่โดนหางเลขก่อนใครเพื่อน…มูลนิธิเว็กซ์เนอร์-ไอแดน และบาเทีย โอเฟอร์ ประกาศตัดเงินอุดหนุน และลาออกจากคณะกรรมการ มหาวิทยาลัย แต่คริสทิน เกย์ อธิการบดีฮาร์วาร์ด ยังคงยืนยันจุดยืนความเป็นอิสระเสรีภาพในการแสดงออก…ไม่สะทกสะท้านต่อแรงกดดันจาก”นายทุน” @@
ฮูก ตาตี่

สวนข่าว ประจำวันพุธที่ ๑๘ ต.ค.๒๕๖๖ ขึ้น ๔ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีเถาะ

…สกอร์ล่าสุดสถิติคนไทยตายในสมรภูมิสู้รบตะวันออกกลาง ขยับแตะ ๓๐ คนไปเรียบร้อย-ขอภาวนาให้หยุดความสูญเสียไว้ที่หมายเลข ๓๐ @@
สัญญาณการสู้รบในตะวันออกกลาง ส่อเค้ายกระดับความรุนแรงมากขึ้น เมื่อมีการยิงถล่มโรงพยาบาล เป็นเหตุให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายหลายร้อยคน ส่งผลให้เกิดการชุมนุมประท้วงกระจายตัวไปในหลายประเทศโลกอาหรับ และวันนี้สถานเอกอัครราชฑูตอิสราเอล ประจำประเทศไทย ในอาคารสูง ย่านชุมชนหนาแน่นของ กทม. ประกาศ”ปิดทำการไม่มีกำหนด” ด้วยเหตุผลความปลอดภัย…@@
ไฟสงครามตะวันออกกลาง ลามข้ามทวีปไปถึงใจกลางยุโรป ลุกเข้าไปในงานแสดงหนังสือใหญ่ที่สุดในโลก “แฟรงค์เฟิร์ตบุ๊คแฟร์” ณ นครแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี เมื่อ “อดาเนีย ชิปลี่”นักเขียนชาวปาเลสไตน์ วัย ๔๙ ปีที่มีชื่อได้รับรางวัล ถูกเลื่อนการมอบรางวัลออกไป ไม่มีกำหนด เหตุ”สมาคมวรรณกรรมลิตพรอม” ที่เป็นผู้จัดงาน เป็นผู้นิยมอิสราเอล ทำให้นักประพันธ์-สำนักพิมพ์กว่า ๑ พันราย เข้าชื่อประท้วง-ผู้ร่วมงานหลายราย เก็บข้าวของถอนตัวจากการร่วมงาน…@@
ผ่านไปแล้วกว่า ๑๐ วัน สถานการณ์สงครามตะวันออกกลางไม่มีวี่แววบรรเทาเบาบางลง…สำนักวิจัยเศรษฐกิจระดับนานาชาติหลายแห่งรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบจากสงครามต่อเศรษฐกิจโลกเป็น ๓ ฉากทัศน์ ๑).สมรภุูมิสู้รบจำกัดอยู่เฉพาะบริเวณฉนวนกาซ่า ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ”เบาบาง”-ระดับราคาน้ำดิบแค่กระเพื่อมเล็กน้อย ๒).สมรภูมิสู้รบขยายวงออกนอกเขตฉนวนกาซ่าล้ำแดนเข้าไปประเทศข้างเคียง ผลกระทบ”ปานกลาง”-ระดับราคาน้ำมันดิบ ขยับเพิ่มขึ้น ๘-๑๐ ดอลลาร์สรอ.ต่อบาเรล-จีดีพีโลก หดตัวประมาณ ๐.๓% ๓).สมรภูมิสู้รบ”แบ่งขั้ว-ขยายวง” เป็น”แนวร่วมอิสราเอล”ปะทะ”แนวร่วมปาเลสไตน์ฮามาส” ผลกระทบ”วิกฤต”-เสี่ยงบานปลายเป็น”สงครามโลกครั้งที่ ๓”-ระดับราคาน้ำมันดิบจะพุ่งขึ้นแตะระดับ ๑๕๐ ดอลลาร์สรอ.ต่อบาเรล-มูลค่าเศรษฐกิจโลกเสียหายกว่า ๑ ล้านล้านดอลลาร์สรอ. หรือกว่า ๓๖ ล้านล้านบาท…@@
หันกลับมาประเทศไทย..สภาพัฒน์-แบงก์ชาติ-สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง มีการศึกษาวิเคราะห์ฉากทัศน์ผลกระทบสงครามตะวันออกกลางต่อชีพจรเศรษฐกิจไทยยังไงมั่ง ?-มีการเตรียมแผนเผชิญเหตุไว้พร้อมแค่ไหน ?..ไม่แคล้วเวิ้งว้างว่างเปล่า…@@
ฮูก ตาตี่