สวนข่าว ประจำวันจันทร์ที่ ๓๐ ต.ค.๒๕๖๖ แรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีเถาะ

..กระทรวงพาณิชย์เพิ่งตื่นงัดไม้ตายจับ”น้ำตาลทราย”ขึ้นบัญชีสินค้าควบคุม น้ำตาลทรายขาว และน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ ต้อง”ขายราคาเดิม”ก่อนวันที่ ๒๘ ต.ค. มีผลทันทีเมื่อที่ประชุม ครม.พรุ่งนี้(๓๑ ต.ค.)ให้ความเห็นชอบปุ๊บ-ประกาศในราชกิจจานุเบกษาปั๊บ บังคับใช้ได้ในบัดดล @@
ย้อนที่มาราคาน้ำตาลทราย”โคตรโหด” ได้”ไฟเขียว” ให้ขึ้นราคาแบบพรวดพราด ๔ บาท/กก. จาก”คณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย”(กอน.)ในชายคากระทรวงอุตสาหกรรม ที่มี รมว.ในโควต้า”รวมไทยสร้างชาติ” มีปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธาน…ทราบแล้วเปลี่ยน @@
ดิจิทัลวอลเล็ตสะเปะสะปะไปเรื่อย..นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง พูดอย่าง-รมช.คลัง พูดอีกอย่าง…ล่าสุดที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี พิชัย ชุณหวชิระ พูดในวงเสวนา กมธ.วุฒิสภา ไปอีกอย่าง…เป็นตุเป็นตะ ตัวเลขประชาชนที่ได้สิทธิ จะเหลือ ๔๐ กว่าล้านคน จะใช้เงินจากงบประมาณไม่ถึง ๕ แสนล้านบาท น่าจะแจกได้ประมาณ ก.ย.๖๗ ผ่าน”แอพเป๋าตัง”….จะเชื่อดีหรือจะไม่เชื่อดีหนอ ??@@
เรื่องดิจิทัลวอลเล็ตเดียวกัน ที่ปปช.ตั้ง “ทีมเอ็กซ์เรย์ดิจิทัลวอลเล็ต” ระดับคนจากแบงก์ชาติ-กกต.-สตง.-ผู้ตรวจการแผ่นดิน-กฤษฏีกา-อัยการ-จุฬาฯ-ธรรมศาสตร์-เกษตรศาสตร์-นิด้า-สมาคมธนาคารไทย-สภาอุตสาหกรรมฯ-สภาหอการค้าฯ เบ็ดเสร็จ ๓๐ คน ร่วมกันตรวจวิเคราะห์ผลดี-ผลเสีย-ผลกระทบละเอียดยิบ…เฮ้อ!!!@@
ไอติม-พริษฐ์ วัชรสินธุ ประธานกมธ.การพัฒนาการเมืองฯ สภาผู้แทนฯ เคลื่อนขบวนแก้ไขรัฐธรรมนูญ คู่ขนานรัฐบาล ตั้ง”อนุกรรมาธิการ”ศึกษาแนวทางแก้ไขัฐธรรมนูญ ด้วยกลไก”ส.ส.ร.” กำหนดเสร็จสรรพเรียบร้อย พร้อมเสิร์ฟให้รัฐบาล รับไปพิจารณาภายในก่อนสิ้นปีนี้…@@
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล สวมบท”นายกฯนอกทำเนียบ”เดินสายคุยนักเรียนไทยใน”เอ็มไอที” เลคเชอร์ แผนกลยุทธพาประเทศไทยก้าวข้ามกับดักรายได้ปานกลาง ด้วยกลยุทธ ๓ F : Firm Ground(เศรษฐกิจฐานรากมั่นคง)-Fair Game (กฏระเบียบเป็นธรรม-ไม่เอื้อทุนใหญ่)-Fast Foward Growth (พุ่งทะยานไปข้างหน้าแบบก้าวกระโดด)…ตกยุคหมดสมัยแล้วชุดความคิดปั้นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เป็นกลไกดูดซับแรงงาน-ขับเคลื่อนจีดีพีประเทศ-ถ้าใช่ป่านนี้ประเทศไทยทะลุไปดวงจันทร์ ไปดาวอังคารนานแล้ว @@
ปิดท้ายสวนข่าววันนี้..ศาลปกครองสูงสุด สั่งรับคำฟ้องมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ให้เพิกถอนมติ กสทช.กรณีควบรวม”ทรู-ดีแทค”…เคสนี้ กสทช.สายทุน ไม่แคล้วเกิดอาการผะอืดผะอมไปตามกัน…@@
ฮูก ตาตี่

สวนข่าว ประจำวันศุกร์ที่ ๒๗ ต.ค.๒๕๖๖ ขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือน ๑๑

…เหตุเกิดที่พรรคเพื่อไทย ทุกอย่างดำเนินไปตามพลังอำนาจของผู้มีบารมีเหนือพรรค @@
เรียบร้อยตามโผ…อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร ทายาท”ทักษิณ-พจมาน”ลอยลำขึ้นแท่นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย มี สรวงศ์ เทียนทอง ทายาท”ป๋าเหนาะ” เป็นเลขาธิการพรรค ร่วมกับกรรมการอีก ๒๑ คน ท่ามกลางกองเชียร์ส่งเสียงอวยกันออกนอกหน้า…กะให้ได้ยินไปถึงหูนายใหญ่ @@
ปฐมบทจากปากหัวหน้าพรรคแพทองธาร…”เราจะไม่ทิ้งนโยบายที่สัญญาไว้กับประชาชน…เราตายังคงดูดาว เท้ายังคงติดดิน ยืนหยัดอยู่ข้างประชาชนอย่างเข้มแข็งมั่นคง เพราะพรรคเพื่อไทย หัวใจคือประชาชน”…แล้วทำไมใครต่อใครพากันเข้าใจว่า”พรรคเพื่อไทย หัวใจคือทักษิณ” คงเข้าใจผิดซินะ @@
ไหนๆก็ยืนยันไม่ทิ้งนโยบายที่สัญญาไว้กับประชาชน ท่านหัวหน้ายังสวย-แพทองธาร น่าจะตอบให้ชัดนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ๑ หมื่นบาท-ค่าจ้างขั้นต่ำวันละ ๖๐๐ บาท จะได้ฤกษ์กดปุ่มเปิดแพรคลุมป้ายเมื่อไหร่ @@
ข่าวร้ายเฉียบพลัน…สนง.คณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.)เปิดไฟเขียวขึ้นราคาน้ำตาลทรายหน้าโรงงาน พรวดเดียว ๔ บาท/กก. มีผลพรุ่งนี้(๒๘ ต.ค.) ส่งผลราคาน้ำตาลทรายขาว พุ่งจาก ๑๙ บาท/กก. เป็น ๒๓ บาท/กก.-น้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ พุ่งจาก ๒๐ บาท/กก. เป็น ๒๔ บาท/กก. ด้วยข้ออ้างป้องกันน้ำตาลทราย ถูกเหมาส่งขายต่างประเทศ ได้ราคาดีกว่า…มักง่ายจัง @@
ปล่อยผีราคาน้ำตาลทรายแพงหูฉี่ทีเดียว ๔ บาท/กก. ด้วยข้ออ้างแพงตามราคาตลาดโลก มักง่ายเกินไปมาก ขาดความรอบคอบ ทั้งที่ความเคลื่อนไหวราคาน้ำตาลตลาดโลก มีความวูบวาบ มีขึ้น มีลง แต่การปล่อยราคาน้ำตาลทรายขึ้นแรงแพงโคตรๆ สร้างภาระค่าครองชีพสารพัดแก่ประชาชน…ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นตามมาเป็นขบวนหนีไม่พ้นราคาอาหาร-ขนม-เครื่องดื่ม ปรับตัวแพงขึ้นแน่นอน…วิงวอนท่านรมว.พาณิชย์ภูมิธรรม เวชยชัย ช่วยด้วยเถิด@@
ปิดท้ายสวนข่าววันนี้..ดูอากัปกิริยาการป้องกันและแก้ปัญหาไฟป่า-หมอกควัน ของรัฐบาล โดยคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติแล้ว…สิ้นหวัง! อยากแนะนำพ่อแม่พี่น้องลูกป้าน้าอาทางภาคเหนือเตรียมหน้ากากอนามัยป้องกัน P.M.๒.๕ และเครื่องฟอกอากาศไว้ให้พร้อม เพื่อความปลอดภัยของชีวิต @@
ฮูก ตาตี่

สวนข่าว ประจำวันพฤหัสบดีที่ ๒๖ ต.ค.๒๕๖๖ ขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีเถาะ

…สถิติการสูญเสียชีวิตคนไทยในสมรภูมิสงครามตะวันออกกลาง สะสมยอดเพิ่มขึ้นเป็น ๓๓ รายเข้าไปแล้ว ขอแสดงความเศร้าเสียใจมายังครอบครัวผู้สูญเสียทุกครอบครัว…@@
พิษหนี้สินและความยากจนฤทธิ์ร้ายกาจ แรงงานไทยในสมรภูมิสู้รบตะวันออกกลาง รู้เต็มอกว่า”เสี่ยงตาย” แต่หนี้สิน-ความจนที่บีบคั้น ต้องยอมเสี่ยงตาย แลกเงินไปแก้หนี้-แก้จน…ความจริงของชีวิตโคตรบัดซบเป็นเช่นนี้แล @@
แวะไปส่องตลาดหุ้นซะหน่อย…วันนี้ดัชนีดิ่งเหวกว่า ๓๐ จุด คิดเป็นกว่า ๒ % ด้วยมูลค่าซื้อขายกว่า ๔.๕ หมื่นล้านบาท ทำเอา ภากร ปิตธวัชชัย ผู้จัดการตลาดหุ้นถึงกับต้องตั้งโต๊ะยืนยัน ดัชนีราคาหุ้นตกต่ำตามภาวะตลาดทั้งภูมิภาค และเหตุแห่งความตกต่ำล้วนเป็นปัจจัยต่างประเทศ แต่เตือนนักลงทุนดูข้อมูล และติดตามผลกระทบให้ดี…ตัวใครตัวมันว่างั้นเถอะ @@
อาการทรุดตัวของดัชนีราคาหุ้นวันนี้ ดัชนีราคาหุ้นกลุ่มวัสดุอุตสาหกรรมและเครื่องจักร ไหลลงหนักหนาสาหัสสุดถึง ๑๒.๖๐ % คิดเป็นติดลบมากกกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดถึง ๖ เท่าตัว @@
จัดเป็นผลงาน”โบว์ดำ” ของรัฐบาลเศรษฐาจะได้มั้ย ? ๑ เดือนแรกของการทำหน้าที่ มูลค่าความมั่งคั่งของตลาดหุ้นไทย อันตรธานหายวับไปแล้ว กว่า ๑ ล้านล้านบาท คิดเป็นกว่า ๒๘ % ของกรอบวงเงินงบประมาณปี ๒๕๖๗ จำนวน ๓.๔๘ ล้านล้านบาท…มิน่าเซียนหุ้นน้อยใหญ่หน้าซีดหน้าเซียวกระเป๋าแห้งเหี่ยวไปตามกัน @@
หมกมุ่นเรื่องหุ้นต่ออีกนิด..ชั่วโมงเทรดหุ้น ส่อเค้าขยายเพิ่มขึ้นวันละ ๑ ชั่วโมง ช่วงเช้าจาก ๑๐.๐๐-๑๒.๓๐ น. เป็น ๐๙.๓๐-๑๒.๓๐ น. ช่วงบ่ายจาก ๑๔.๓๐-๑๖.๓๐ น.เป็น ๑๔.๐๐-๑๖.๓๐ น…ตามสั่งนายกฯเศรษฐา @@
ลวดลายลีลายังแพรวพราว..พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สวมบท”นายกรัฐมนตรีนอกทำเนียบ” ข้ามน้ำข้ามทะเลตั้งวงระดมสมองซอฟต์พาวเวอร์พันธ์ุไทยถึงนิวยอร์ค สหรัฐ สะสมข้อมูลเตรียมพร้อมปล่อยแสงสำแดงฤทธิ์ซอฟต์พาวเวอร์ไทยให้ระบือลือลั่นสนั่นโลกา…@@
ร่ายยาวข้ามวัน..พรุ่งนี้ (๒๗ ต.ค.) ยามไก่โห่ นายกฯเศรษฐา ทวีสิน นิมนต์พระสงฆ์ไปทำบุญเป็นการส่วนตัว ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนเข้าปักหลักพักค้างคืนตามที่เคยพลั้งปากพูดไว้..ยามบ่าย ไปร่วมแสดงความยินดีกับ”หัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่”…นับวันเท้านายกฯเศรษฐา ไม่ว่าจะใส่ถุงเท้าสีอะไร แต่น่าจะ”เท้งเต้ง” ลอยโทงเทงเหนือพื้นมากขึ้นทุกที @@
ฮูก ตาตี่

สวนข่าว ประจำวันพุธที่ ๒๕ ต.ค.๒๕๖๖ ขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีเถาะ

…ขอชื่นชมในความแซ่บของผู้ชายชื่อ”ชาดา ไทยเศรษฐ์” มท.๒ กับคำสั่งเด็ดขาดให้ลูกเขย”ต้องลาออก” พ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลตลุกดู่ อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี ทันที…ต้องขอกราบงามๆมา ณ โอกาสนี้ @@
กระซวกแรงจาก มท.๑ อนุทิน ชาญวีรกูล…นี่แหละรางวัลสำหรับ”คนโง่+เซ่อ” ย่อมเป็นเหยื่อของตำรวจ ที่ฉลาด สามารถจับโป๊ะกลโกงตบทรัพย์หลายแสนบาทได้..คาหนังคาเขา @@
ดิจิทัลวอลเล็ตเกิดอาการกระเพื่อมเล็กๆ..คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ตกผลึกเบื้องต้น ๔ ประการ ๑).“พลเมืองไทยอายุ ๑๖ ปีขึ้นไป ไม่ได้รับแจกถ้วนหน้า” แต่จะแจกให้คนที่ควรได้รับแจก ๒).แหล่งที่มาของเงินมาจากงบประมาณแผ่นดินปี ๒๕๖๗ เป็นหลัก ๓).ไม่แตะต้องยืมเงินแบงก์ออมสิน ๔).ดีเดย์แจกเงินเลื่อนจากก.พ.๒๕๖๗ ไปเป็น พ.ค.๒๕๖๗ @@
“อุ๊งอิ๊ง” แพททองธาร ชินวัตร สวมหัวโขนประธานประชุมนัดปฐมฤกษ์ คณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ เคาะตั้งอนุกรรมการ ๑๒ คณะ ๑)แฟชั่น ๒).หนังสือ ๓).ภาพยนตร์ ๔).ละครและซีรีส์ ๕).เทศกาล ๖).อาหาร ๗).ออกแบบ ๘).ท่องเที่ยว ๙).เกม ๑๐).ดนตรี ๑๑).ศิลปะ ๑๒).กีฬา ตั้งเป้า”ควิกวิน” ต้องเสกให้เห็นผลภายใน ๖ เดือน…@@
ค่ำคืนนี้นายกฯเศรษฐา ทวีสิน แต่งตัวย้อนยุคออเจ้า กลมกลืนกับซีรีส์”พรหมลิขิต” ไปดูหนัง”สัปเหร่อ”….เข้ากันได้ดีมั่กๆ @@
ปิดท้ายสวนข่าววันนี้ ส่องไฟสงครามตะวันออกกลางกันหน่อย…สถิติพี่น้องไทยตายเพิ่มอีก ๑ เป็น ๓๑ ราย ส่วนสถานการณ์ส่อเค้าเลวร้ายหนักขึ้น เมื่อรัฐบาลอิสราเอล เปิดศึกพิพาท ยูเอ็น ถึงขั้นไล่ตะเพิด เลขาธิการยูเอ็น อันโตนิโอ กูเตาเรซ ออกจากตำแหน่ง แถมปฏิเสธวีซ่า ไม่อนุญาตให้ มาร์ติน กริฟฟิธส์ รองเลขาธิการยูเอ็น ด้านมนุษยธรรม เข้าประเทศ ด้วยเหตุโมโหโกรธาที่เลขายูเอ็น บังอาจกล่าวหาอิสราเอล กระทำการละเมิดมนุษยธรรมในฉนวนกาซ่าอย่างร้ายแรง…@@
ฮูก ตาตี่

สวนข่าว ประจำวันอังคารที่ ๒๔ ต.ค.๒๕๖๖ ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีเถาะ

…วันนี้วันครบรอบ ๗๘ ปีการสถาปนาองค์การสหประชาชาติ เพื่อทำหน้าที่รักษาสันติภาพ และความมั่นคงระหว่างประเทศ ขณะที่ไฟสงครามในตะวันออกกลางยังลุกโชนโชติช่วง…เย้ยหยามหยันฉีกหน้าองค์การสหประชาชาติไม่มีชิ้นดี @@
ปฏิบัติการลำเลียงความช่วยเหลือเข้าไปเยียวยาเหยื่อสงครามในฉนวนกาซ่าขององค์การสหประชาชาติ ขอภาวนาอย่าให้ซ้ำรอย”โครงการน้ำมันเพื่ออาหาร” (Oil for Food Program) เมื่อครั้งสงครามอ่าวเปอร์เชีย ที่มีขบวนการกว่า ๔,๕๐๐ บริษัท รวมทั้ง”นักข่าว”สมคบกันฉ้อฉลคดโกงสะบั้นหั่นแหลก นับหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามที่ปรากฏในรายงานของคณะผู้ตรวจสอบพิเศษ นำโดยพอล โวล์คเกอร์ อดีตประธานธนาคารกลางระดับตำนานของสหรัฐ ซึ่งสรุปผลการตรวจสอบเอาไว้ยาวเหยียด ๖๒๓ หน้า…@@
เฮ หรือโฮดี?..มติที่ประชุม ครม.วันนี้ เคาะสลับวันหยุดชดเชยเทศกาลส่งท้ายปีเก่า๒๕๖๖ ต้อนรับปีใหม่ ๒๕๖๗ จากอังคารที่ ๒ ม.ค.๒๕๖๗ เป็น ศุกร์ที่ ๒๙ ธ.ค.๒๕๖๖…หมดสิทธิ์ฉลองปีใหม่แบบหลุดโลก ไม่งั้นได้คลานเข้าทำงานอังคารที่ ๒ ม.ค.กันแบบสลึมสลือแหงแก๋ @@
ที่ประชุม ครม.วันนี้ กระทรวงพาณิชย์ รายงานตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ก.ย.เตาะแตะอยู่แค่ ๐.๓๐% ลดลงจากเดือนส.ค.ถึง ๐.๕๘ % หรือคิดเป็น”ลดลงเกือบ ๒ เท่าตัว” แถมยังเป็นอัตราเงินเฟ้อต่ำสุดในอาเซียน..โอกาสเดียวกันนี้ยังรายงานการปรับลดค่าเฉลี่ยอัตราเงินเฟ้อปี ๒๕๖๖ จาก ๑.๕% เหลือเพียง ๑.๓๕%…แบงก์ชาติว่าไง? ไม่คิดจะทุบอัตราดอกเบี้ยลงมา ช่วยบรรเทาภาระหนี้ครัวเรือน-หนี้ธุรกิจมั่งเลยหรือ ???@@
พิษร้ายภัยดอกเบี้ยแพง กระแทกตลาดรถอย่างแรง…สุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สอท.ปรับลดเป้าผลิตรถขายในประเทศปีนี้ลง ๕ หมื่นคัน จาก ๘๕๐,๐๐๐ คัน เหลือ ๘ แสนคัน ต่ำกว่าปีที่แล้ว ๑.๗๘% เหตุไฟแนนซ์ ดันยอดเงินดาวน์รถพุ่งขึ้นสูงลิ่ว ๓๐-๔๐% ตัดปัญหาหนี้เสีย…อยากมีรถ ไม่มีเงินดาวน์ ๓๐-๔๐% ของราคารถ ทุกอย่างหยุด @@
ฮูก ตาตี่

สวนข่าว ประจำวันจันทร์ที่ ๒๓ ต.ค.๒๕๖๖ ขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีเถาะ

…วันนี้ตรงกับ”วันปิยะมหาราช”..วันน้อมรำลึกถึงวันเสด็จสวรรคต พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ล้นเกล้ารัชกาลที่ ๕ พระมหากษัตริยาธิราชเจ้าที่ทรงเป็นที่รักเคารพสูงยิ่งของพสกนิกร ผู้ทรงเลิกทาส โดยปราศจากการสูญเสียชีวิตเลือดเนื้อ และทรงเปี่ยมด้วยพระมหากรุณาธิคุณอย่างอเนกอนันต์ต่อปวงชนชาวสยาม…@@
การสู้รบระหว่างปาเลสไตน์ฮามาส กับ อิสราเอล ผ่านไปแล้ว ๑๗ วัน ชีวิตผู้คนถูกสังเวยไปแล้วกว่า ๖,๕๐๐ คน ส่วนใหญ่กว่าครึ่งของเหยื่อที่สังเวยชีวิตคือ “เด็ก-ผู้หญิง”…@@
วัฒนา ธนาศักดิ์เจริญ ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคใต้ หอการค้าไทย สารภาพ เกือบ ๑ เดือนของมาตรการ”ฟรีวีซ่า”ของรัฐบาล ที่หวังจูงใจนักท่องเที่ยวจีน-คาซัคสถาน แต่นักท่องเที่ยวจีน-คาซัคสถาน กลับเดินทางเข้ามา”เบาบาง” เปรียบเทียบกับปีที่แล้ว ยอดจองหายไป”ครึ่งต่อครึ่ง”… เหตุเกิดจากกรณียิงกันตายในห้างสรรพสินค้าใจกลางกทม.-สงครามตะวันออกกลาง…มาตรการนี้ของรัฐบาล”ไม่ปัง แต่แป๊กอย่างจัง” @@
ยืนยันจากนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน เป็นครั้งที่นับไม่ถ้วน แจกแน่ดิจิทัลวอลเล็ต ๑ หมื่นบาท แต่กำหนดแจกที่เคยพูดจาหนักแน่น ๑ ก.พ.๒๕๖๗ ชักออกอาการ “เป๋โลเล” @@
รัฐบาลเปิดปฏิบัติการ”ขี่กระแสสัปเหร่อ” ปลุกปั้นผลงานซอฟต์พาวเวอร์ กวาดต้อน ครม.ดูหนัง”สัปเหร่อ” รอบ ๑๙.๔๕ น. พุธที่ ๒๕ ต.ค.นี้ที่สยามพารากอน..มีเศรษฐา ทวีสิน ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ว่าด้วยซอฟต์พาวเวอร์ และรองประธานฯแพทองธาร ชินวัตร ร่วมชมด้วย….หวังว่าพลังหนังสัปเหร่อ จะติดเทอร์โบให้ซอฟต์พาวเวอร์ไทยไปฮอลลีวู้ด เทียมหน้าเทียมตาเกาหลีใต้ได้ซะที…@@
ปิดท้ายสวนข่าววันนี้ ด้วยเรื่องราว”นักโทษเทวดา” ผู้อยู่เหนือกฏหมาย..ต้องโทษจำคุก แต่ไม่เคยต้องอยู่ในคุก ด้วยเหตุ”ป่วยเรื้อรัง” จำเป็นต้องรับการรักษาและพักฟื้นในโรงพยาบาล โดยที่คณะแพทย์ผู้ทำการรักษาไม่เคยเปิดเผยตัวตน…นี่แหละความโปร่งใส-เป็นธรรม แบบไทยไทย @@
ฮูก ตาตี่

สวนข่าว ประจำวันศุกร์ที่ ๒๐ ต.ค.๒๕๖๖ ขึ้น ๖ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีเถาะ

…ในที่สุดดัชนีราคาหุ้นก็หลุดทะลุ ๑,๔๐๐ จุดจนได้ มาปิดที่ ๑,๓๙๙.๓๕ จุด ติดลบ ๒๓.๖๙ จุด คิดเป็น ๑.๖๖ % มูลค่าซื้อขาย ๕๒,๙๙๗.๗๒ ล้านบาท…@@
๕ กลุ่มหุ้นที่ปิดตลาดส่งท้ายวันหยุดยาวติดลบแซงหน้าดัชนีตลาดไปไกล ๑).กลุ่มกระดาษและวัสดุการพิมพ์ ติดลบ ๕.๓๑ % ๒). กลุ่มท่องเที่ยวฯ ติดลบ ๓.๔๐% ๓).กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิกส์ ติดลบ ๓.๓๐% ๔).กลุ่มปิโตรเคมีฯ ติดลบ ๓.๒๖% ๕).กลุ่มธุรกิจการเกษตร ติดลบ ๓.๐๑%…@@
รวยแล้ว-รวยอยู่-รวยอู้ฟู่ต่อไป คือผลกำไรกลุ่มธุรกิจธนาคารพาณิชย์ งวด ๙ เดือน เฟื่องฟูฟู่ฟ่าเป๋าตุงพุงปลิ้นกันถ้วนหน้า ด้วยอานิสงส์อัตราดอกเบี้ยที่แบงก์ชาติใจดีขึ้นแล้วขึ้นอีก ๘ รอบ จาก ๑.๕% เด้งขึ้นไป ๒.๕% สวนทางกับลูกหนี้ หน้าซีดหน้าเซียวหลังแอ่กหลังแอ่น จากภาระดอกเบี้ยกดทับซ้ำแล้วซ้ำเล่า…ใครจ่ายไหว กัดฟันกล้ำกลืนจ่ายไป-จ่ายไม่ไหว ถอดใจปล่อยเป็นหนี้เน่า รอวันถูกฟ้องบังคับคดียึดหลักประกันเลหลังขายทอดตลาดไป…@@
อยากรู้จัง แบงก์ชาติเคยรู้สึกสำนึกผิดมั่งมั้ย ? ทุกครั้งที่ขึ้นดอกเบี้ย หนุนกำไรแบงก์พาณิชย์โตมโหฬาร แต่ซ้ำเติมภาระหนี้สินลูกหนี้…แบงก์ชาติ ที่วิเคราะห์ประเด็นเศรษฐกิจสารพัด เคยแสดงผลวิเคราะห์ผลกระทบจากการขึ้นดอกเบี้ย ต่อสถานการณ์หนี้สินลูกหนี้บ้างมั้ย-กล้าๆทำหน่อยซิเรื่องแบบนี้ @@
สุรชัย กำพลานนท์วัฒน์-อารักษ์ ราษฏร์บริหาร ๒ ผู้ทรงคุณวุฒิที่มีประสบการณ์บริหารจัดการการเงินการลงทุนยาวนานกว่า ๓๐ ปี และเป็นวิทยากร”ชวนหาเรื่องปากท้องต้องสู้” พูดเรียกร้องแบงก์ชาติให้รีบตั้ง “บรรษัทบริหารจัดการทรัพย์สิน-เอเอ็มซี” มาเป็นกลไก”รีไซเคิลหนี้” จากระบบ ช่วยทั้งลูกหนี้-เจ้าหนี้ และปลดล็อคเศรษฐกิจให้เดินหน้า แต่”ไร้ปฏิกิริยาตอบสนอง”…น่าดีใจล่าสุดกระทรวงการคลัง สั่งแบงก์ออมสิน เร่งตั้ง “เอเอ็มอี” กวาดขยะหนี้จากระบบไปฟอกโดยไว ไม่ต้องรอแบงก์ชาติ และหวังว่าแบงก์ชาติ จะไม่ชักแม่น้ำทั้งห้าทักท้วงขัดขวางนะ…เสียงเรียกร้องของสุรชัย-อารักษ์ ไม่สูญเปล่าแล้ว-ชวนหาเรื่องปากท้องต้องสู้ ได้ทำประโยชน์แล้ว @@
ขี้ข้าบริวารหัวร้อนควันออกหูกันไปทำไมมีกับข้อวิพากษ์วิจารณ์ เครื่องแต่งกาย-รองเท้า-ถุงเท้า-อากัปกิริยางอก่องอขิงลุกลี้ลุกลน ของ”เจ้านาย” ในเมื่อทุกข้อวิจารณ์ล้วน”ความจริง”… ถ้าหงุดหงิดข้อวิจารณ์ ก็ปรับปรุงแก้ไขให้มันถูกกาลเทศะ-ถูกขนบประเพณีการแต่งกายที่ดี…ถ้าไม่รู้ ก็หาผู้รู้ที่แตกฉานด้านบุคลิกภาพมาชี้แนะซะ หรือหากคิดว่าไม่แต่งตัวแหกคอกแหวกแนว ไม่ใส่ถุงเท้าแฟนซีหลากสีแล้วโลกไม่จำ ก็เอาที่สบายใจไปเถอะ แต่ขี้ข้าทั้งหลายกรุณาอย่างี่เง่ากับข้อวิจารณ์ @@
ฮูก ตาตี่

สวนข่าว ประจำวันพฤหัสบดีที่ ๑๙ ต.ค.๒๕๖๖ ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีเถาะ

…ดิจิทัลวอลเล็ตยังอลเวงโขมงโฉงเฉงกันไม่เสร็จ…ยังคลำหาข้อสรุปไม่เจอะเจอ @@
จำชื่อนี้ไว้ให้ดี…ดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ ธปท.รายงานโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ที่ประชุมกมธ.การพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนฯ “ความจำเป็นต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมผ่านโครงการนี้ยังมีไม่มาก…ผลของโครงการต่อเศรษฐกิจอาจจะไม่ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย…” แปลกมหัศจรรย์ยิ่งนักทั้งที่ยังไม่รู้รายละเอียดใดๆของดิจิทัลวอลเล็ตซักนิด แบบนี้จะเรียกว่านั่งเทียนยกเมฆได้มั้ยนะ หรือว่าคนแบงก์ชาติมีญาณวิเศษ @@
ไฟสงครามตะวันออกกลางโชนแสงแรงกล้าหนักขึ้น…สถานฑูตสหรัฐในกรุงเบรุต ประเทศเลบานอน ที่มีชายแดนแนบชิดติดอิสราเอล “ถูกเผา” แบบเหนือความคาดหมาย…เคสนี้ยากนักที่สหรัฐจะกรรเชียงออกจากวงจรสงคราม..@@
เปิดหน้าเลือกข้างชัดเจน…กลุ่มนาโต้นำโดยสหรัฐ-อังกฤษ-เยอรมนี-ฝรั่งเศส แสดงตัวหนุนหลังอิสราเอลเต็มตัว…@@
ล่าสุด ริชี่ ซูนัค นายกรัฐมนตรีอังกฤษ บินด่วนเข้าอิสราเอล ให้กำลังใจ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ยืนยัน “We want you to win” @@
สมรภูมิสู้รบตะวันออกกลางแพร่กระจายขยายขอบเขตกว้างไกลต่อเนื่องจากงานแสดงหนังสือแฟรงค์เฟิร์ต ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในเยอรมนี ขยับเข้าสู่กลุ่มมหาวิทยาลัยระดับยอด ในสหรัฐ ที่รู้จักกันภายใต้การเรียกขาน “ไอวี่ลีค”(Ivy League) เมื่อบรรดาเศรษฐี มหาเศรษฐีเชื้อสายยิว ประกาศตัดเงินอุดหนุน-ถอนตัวจากบอร์ดมหาวิทยาลัย ด้วยเหตุไม่พอใจผู้บริหารมหาวิทยาลัย ไม่แสดงปฏิกิริยา”ประณามฮามาส-เลือกข้างอิสราเอล”…@@
“ฮาร์วาร์ด” คือ ๑ ในไอวี่ลีค ที่โดนหางเลขก่อนใครเพื่อน…มูลนิธิเว็กซ์เนอร์-ไอแดน และบาเทีย โอเฟอร์ ประกาศตัดเงินอุดหนุน และลาออกจากคณะกรรมการ มหาวิทยาลัย แต่คริสทิน เกย์ อธิการบดีฮาร์วาร์ด ยังคงยืนยันจุดยืนความเป็นอิสระเสรีภาพในการแสดงออก…ไม่สะทกสะท้านต่อแรงกดดันจาก”นายทุน” @@
ฮูก ตาตี่

สวนข่าว ประจำวันพุธที่ ๑๘ ต.ค.๒๕๖๖ ขึ้น ๔ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีเถาะ

…สกอร์ล่าสุดสถิติคนไทยตายในสมรภูมิสู้รบตะวันออกกลาง ขยับแตะ ๓๐ คนไปเรียบร้อย-ขอภาวนาให้หยุดความสูญเสียไว้ที่หมายเลข ๓๐ @@
สัญญาณการสู้รบในตะวันออกกลาง ส่อเค้ายกระดับความรุนแรงมากขึ้น เมื่อมีการยิงถล่มโรงพยาบาล เป็นเหตุให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายหลายร้อยคน ส่งผลให้เกิดการชุมนุมประท้วงกระจายตัวไปในหลายประเทศโลกอาหรับ และวันนี้สถานเอกอัครราชฑูตอิสราเอล ประจำประเทศไทย ในอาคารสูง ย่านชุมชนหนาแน่นของ กทม. ประกาศ”ปิดทำการไม่มีกำหนด” ด้วยเหตุผลความปลอดภัย…@@
ไฟสงครามตะวันออกกลาง ลามข้ามทวีปไปถึงใจกลางยุโรป ลุกเข้าไปในงานแสดงหนังสือใหญ่ที่สุดในโลก “แฟรงค์เฟิร์ตบุ๊คแฟร์” ณ นครแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี เมื่อ “อดาเนีย ชิปลี่”นักเขียนชาวปาเลสไตน์ วัย ๔๙ ปีที่มีชื่อได้รับรางวัล ถูกเลื่อนการมอบรางวัลออกไป ไม่มีกำหนด เหตุ”สมาคมวรรณกรรมลิตพรอม” ที่เป็นผู้จัดงาน เป็นผู้นิยมอิสราเอล ทำให้นักประพันธ์-สำนักพิมพ์กว่า ๑ พันราย เข้าชื่อประท้วง-ผู้ร่วมงานหลายราย เก็บข้าวของถอนตัวจากการร่วมงาน…@@
ผ่านไปแล้วกว่า ๑๐ วัน สถานการณ์สงครามตะวันออกกลางไม่มีวี่แววบรรเทาเบาบางลง…สำนักวิจัยเศรษฐกิจระดับนานาชาติหลายแห่งรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบจากสงครามต่อเศรษฐกิจโลกเป็น ๓ ฉากทัศน์ ๑).สมรภุูมิสู้รบจำกัดอยู่เฉพาะบริเวณฉนวนกาซ่า ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ”เบาบาง”-ระดับราคาน้ำดิบแค่กระเพื่อมเล็กน้อย ๒).สมรภูมิสู้รบขยายวงออกนอกเขตฉนวนกาซ่าล้ำแดนเข้าไปประเทศข้างเคียง ผลกระทบ”ปานกลาง”-ระดับราคาน้ำมันดิบ ขยับเพิ่มขึ้น ๘-๑๐ ดอลลาร์สรอ.ต่อบาเรล-จีดีพีโลก หดตัวประมาณ ๐.๓% ๓).สมรภูมิสู้รบ”แบ่งขั้ว-ขยายวง” เป็น”แนวร่วมอิสราเอล”ปะทะ”แนวร่วมปาเลสไตน์ฮามาส” ผลกระทบ”วิกฤต”-เสี่ยงบานปลายเป็น”สงครามโลกครั้งที่ ๓”-ระดับราคาน้ำมันดิบจะพุ่งขึ้นแตะระดับ ๑๕๐ ดอลลาร์สรอ.ต่อบาเรล-มูลค่าเศรษฐกิจโลกเสียหายกว่า ๑ ล้านล้านดอลลาร์สรอ. หรือกว่า ๓๖ ล้านล้านบาท…@@
หันกลับมาประเทศไทย..สภาพัฒน์-แบงก์ชาติ-สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง มีการศึกษาวิเคราะห์ฉากทัศน์ผลกระทบสงครามตะวันออกกลางต่อชีพจรเศรษฐกิจไทยยังไงมั่ง ?-มีการเตรียมแผนเผชิญเหตุไว้พร้อมแค่ไหน ?..ไม่แคล้วเวิ้งว้างว่างเปล่า…@@
ฮูก ตาตี่

สวนข่าว ประจำวันอังคารที่ ๑๗ ต.ค.๒๕๖๖ ขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีเถาะ

…สถานการณ์สงครามในฉนวนกาซ่ายังรุนแรงต่อเนื่องนับจากวันที่ ๗ ต.ค.เป็นต้นมาหลังผ่านไปแล้ว ๑๐ วัน @@
วิกฤตสงครามปาเลสไตน์ฮามาส-อิสราเอล แจ้งเกิด”๒วีรสตรีไทย”..”พี่แจ๋ม”วิภาวดี วรรณชัย-”พี่น้อง”นภาพร โศหาซัน ขับรถเสี่ยงตายฝ่าสมรภูมิสู้รบ ช่วยชีวิตนักรบแรงงานไทย ส่งขึ้นเครื่องบินกลับบ้านอย่างปลอดภัย…ห้ามถามสถานฑูตไทยในเทลอาวีฟ ทำอะไรมั่ง ??@@
คำเปิดใจจาก”พี่แจ๋ม”ที่เสี่ยงเอาชีวิตแลกชีวิต ทั้งที่ไม่มีสายสัมพันธ์ฉันท์วงศาคณาญาติใดๆ..ทั้งที่แม่กำลังใกล้สิ้นลมหายใจเฮือกสุดท้าย..”ไม่ต้องห่วงแม่นะ ช่วยคนได้กุศลนะลูก…คนเราเกิดหนเดียวตายหนเดียว..” หัวใจเทพธิดานางฟ้าน่ากราบไหว้ชะมัด @@
หันมาพินิจพิจารณาความรู้ร้อนรู้หนาวอย่างยิ่งของสถานเอกอัครราชฑูตไทยประจำกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล ที่สะท้อนผ่านเพจ”Roya Thai Embassy,Tel Aviv (ทุกเรื่องเมืองยิว)…เปิดหมายเลขโทรศัพท์ไว้บริการเหลือเฟือ แต่”โทรติด ไม่มีคนรับ”…เปิดช่องทางสื่อสารอำนวยความสะดวกให้ติดต่อ แต่”สื่อสารไป แล้วเงียบเป็นเป่าสาก”….เปิดศูนย์พักพิง เตรียมความพร้อมส่งกลับ แต่”ต้องตะเกียกตะกายฝ่าดงกระสุน-กับระเบิดไปกันเอง”…ยิ่งน่าประทับใจมากขึ้นไปอีกกับข้อความในประกาศ “…ขอใบเสร็จจากคนขับรถ เพื่อนำไปเบิกที่ประเทศไทย..”…ลืมไปหรือเปล่า นี่มันสถานการณ์สงครามนะใต้เท้า @@
ปฏิกิริยาการกระทำของสถานฑูตฯ ดูช่างห่างไกลความต้องการของคนไทยภายใต้ไฟสงคราม…สิ่งที่พี่น้องไทยในพื้นที่อันตรายต้องการได้ ต้องการรู้ คือ..”แรงงานจำนวนมากไปลงทะเบียนแล้ว ไม่ทราบรัฐบาลจะมารับวันไหน จะได้บินกลับบ้านวันไหน…”
แรงงานไทยที่รอดตายกลับถึงบ้านแล้ว กระเทาะจุดอ่อนกลไกการให้ความช่วยเหลือของรัฐบาล…”มีประกาศจำนวนผู้ลงทะเบียนต้องการกลับบ้านไว้ ๖,๐๐๐-๗,๐๐๐ คน ทุกคนอยากรู้ช่องทางการตรวจสอบแบบเรียลไทม์ว่าตัวเองจะได้กลับวันไหน คิวที่เท่าไหร่…” บริการแบบนี้ที่พี่น้องต้องการ แต่สถานฑูตฯไม่เปิดบริการ @@
ความจริงที่โคตรเจ็บปวดจากคำบอกเล่าล่าสุดของแรงงานไทยในอิสราเอล..”คนไทยที่ได้รับบาดเจ็บจากภัยสงคราม ไม่ได้รับการติดต่อใดๆจากสถานฑูตฯ เหมือนถูกทิ้งให้เป็นความรับผิดชอบของทางการอิสราเอล..”…วังเวงจัง @@
ฮูก ตาตี่