ขอเช็คอินกลับเข้ารายงานตัวประจำการสวนข่าวตามปกติ หลังจากหนีตามทีมงานหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่(บพท.)และคณะนักวิจัยหลายมหาวิทยาลัย ไปเปิดหูเปิดตาหาความรู้ที่เมืองกว่างโจว มณฑลกว่างตง สาธารณรัฐประชาชนจีนซะหลายวัน @@

หลายวันที่ติดสอยห้อยตามคณาจารย์นักวิจัยไปท่องโลกกว้างที่กว่างโจว สังเกตเห็นชัดเจนถึงความตื่นรู้ของนักวิจัย ในการขยันหมั่นเพียรเก็บสะสมข้อมูลเป็นโจทย์วิจัย ไปออกแบบพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน บนฐานทรัพยากรในชุมชน แล้วนำสู่ตลาดเป้าหมาย เพื่อยกระดับรายได้ ยกระดับคุณภาพชีวิต ลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำแก่ชาวบ้านในชุมชน ภายใต้หลักคิด”นำผลิตภัณฑ์ชุมชน ออกสู่โลกกว้าง” @@

สิ่งที่ได้พบ ได้สัมผัสด้วยตัวเองที่เมืองจีน ๑).จีนคือโรงงานของโลก ยากที่ชาติไหนจะหาญกล้าท้าแข่งเรื่องราคา ๒).จีนมีศิลปะในการยืดหยุ่นตัวสูง เพื่อดูดซับความมั่งคั่ง ด้วยการต้อนรับคนต่างชาติเข้าไปใช้ชีวิตและทำมาหากิน ๓).จีนเกลียด”ยาเสพติด”เข้ากระดูกดำ และถือเป็นศัตรูตัวร้ายหมายเลข ๑ ของชาติ…เหตุผลง่ายมากคือจีนเจ็บปวดและจดจำฝังใจที่หวิดสิ้นแผ่นดินสิ้นชาติ เพราะ”ฝิ่น” มัจจุราชเงียบที่อังกฤษพาเข้าไปมอมเมาจีนงอมแงมกันทั้งประเทศ @@

ความที่จีน เกลียดยาเสพติดอย่างยิ่ง ย่อมเป็นธรรมดาที่จีนต้องไม่สนับสนุนพลเมืองให้เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศที่มีนโยบายยาเสพติดแบบ”สีเทา”…ตราบใดที่นโยบายกัญชาฮาเฮ ยังโยเย รัฐบาลไม่กล้าประกาศจัดระเบียบให้ชัดเจน ป่วยการจะไปชวนคนจีนมาเที่ยวไทย @@

เกาะติดขอบเวทีงานแถลงข่าว”ฆ่าโง่โฮปเวลล์” โดยสัญญา สถิรบุตร อดีตส.ส.กทม./อดีตกรรมการ การรถไฟแห่งประเทศไทย ตอบโต้การป้ายสีโฮปเวลล์ติดสินบน”หมื่นล้าน” เปิดหลักฐานกระชากหน้ากาก”คนดี”ชักใยขบวนการการสมคบคิด ใช้อำนาจบริหาร+นิติบัญญัติ ยืมมือ “ผู้ตรวจการแผ่นดิน” ปูทางไปสู่การ“รุมสกรัมอำนาจตุลาการ” หักล้างคำพิพากษาอันเป็นที่สุดของศาลปกครองสูงสุด มีทั้งหลักฐานคลิปภาพพระเอก-พระรอง-ตัวประกอบ มีทั้งหลักฐานเอกสารที่ออกโดยราชการ…น่าตื่นเต้นเร้าใจยิ่งกว่าดูซีรีส์สืบสวนสอบสวนขยี้ปมปริศนา @@

ชุดข้อมูลหลักฐาน”ฆ่าโง่โฮปเวลล์” ที่อดีตส.ส.ระดับลายครามอย่าง สัญญา สถิรบุตร เจ้าของวลีอมตะ”ไม่เลือกเรา เขามาแน่” นำเผยแพร่ อาจเป็นเหตุทำให้”ข่าวดี” เป็น “ข่าวลวง” และ “ฮีโร่” กลายเป็น “พีนอคคิโอ” ท้ายสุดยอดชำระคืนเงินลงทุนให้โฮปเวลล์ ตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด แทนที่จะจบแค่ ๑๑,๘๘๘ ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยไม่เกิน ๔๓๒ ล้านบาท หากเคารพและถือปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดเมื่อวันที่ ๒๒ เม.ย.๒๕๖๒ ที่กำหนดให้ชำระคืนเงิน พร้อมดอกเบี้ยอัตรา ๗.๕% ต่อปี แก่โฮปเวลล์ ภายใน ๑๘๐ วัน นับถึงวันนี้ดอกเบี้ยเฉลี่ย ๒.๔ ล้านบาทต่อวัน ล่วงเลยมาแล้ว ๒,๓๕๒ วัน คิดเป็นยอดรวมดอกเบี้ยบานฉ่ำขึ้นไปถึง ๕,๖๔๕ ล้านบาทเข้าไปแล้ว…อยากรู้จังภาระที่ประเทศต้องจ่าย จะตามเช็คบิลกับใครได้มั่ง ???@@

เอกสารหลักฐาน ที่ สัญญา สถิรบุตร เปิดให้นักข่าวได้ตาลุกวาว น่าเชื่อว่าจะมีการขยายผลทำให้”เจ้าหน้าที่รัฐ” หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องถูกร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีฐาน”ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ” เข้าข่ายความผิดตา่มประมวลกฏหมายอาญามาตรา ๑๕๗….คุกคุกคุกรออยู่ @@

ปิดท้ายสวนข่าววันนี้…Government Policy Statement-GPS หรือ นโยบายรัฐบาลอนุทิน ชาญวีรกูล ที่แถลงต่อรัฐสภาวันนี้ ดูเข้าท่าเข้าทีดี แต่ยังเป็นนโยบายที่ขาดความคมชัดของตัวชี้วัดผลลัพธ์ ผลสัมฤทธิ์ และผลกระทบตามที่ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคประชาชน ตั้งข้อสังเกต…ไม่ต่างอะไรกับ GPS ที่ขาดประสิทธิภาพในการนำทาง @@

ฮูก ตาตี่