เมืองไทยยุคสมัยนี้สารพัดเรื่องอัปรีย์ปะทุผุดขึ้นได้ไม่เว้นแต่ละวัน
เหลือเชื่อที่ต้องเชื่อเมื่อเป็นเมืองไทย…คุกกลายเป็นซ่องเสพสังวาสได้ เหตุเกิดที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม มีจนท.คุก ๑๙ นายคอยอำนวยความสะดวกแลก”ส่วยกาม” @@
เงินทุนเทาผู้ต้องขังชาวจีน สั่งจนท.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ เป็นธุระจัดการนำเข้า”อีตัว”จากเมืองจีน ผ่านช่องทางพิเศษเข้าไปบำเรอกามถึงในเรือนจำ…แล้วส่งกลับ @@
อัปรีย์กรรมขบวนการข้าราชการบัดซบ แปลงเรือนจำ เป็น ซ่อง ต้องไม่ลงโทษแค่ย้าย แล้วตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ตบตาชาวบ้านพอเป็นพิธี แต่ต้องเล่นให้หนัก จัดให้เต็ม…ไล่ออกจากราชการ-ยึดทรัพย์ @@
กรณีปล่อยให้ลูกน้อง แปลงเรือนจำ เป็น ซ่อง โปรดอย่ามองข้ามอธิบดีและรองอธิบดี กรมราชทัณฑ์ ต้องตั้งกรรมการสอบเส้นเงิน และข้อเท็จจริงร่วมด้วย ในฐานะ”ผู้อยู่ในข่ายต้องสงสัย” @@
รองนรม.และรมว.คลัง เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ เผลอจ้อเกินขอบเขตบอกใบ้ดันภาษีมูลค่าเพิ่ม จาก ๗% ขึ้นเป็น ๘.๕% ปี ๒๕๗๑ และขยับเป็น ๑๐% ปี ๒๕๗๓ ทำเอาชาวบ้านตระหนกตกใจ ร้อนถึงนายกฯหนู-อนุทิน ชาญวีรกูล ต้องออกโรงนั่งยันนอนยัน”ไม่จริง-เป็นไปไม่ได้”…@@
ยอมเปิดปากรับสารภาพ…อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ยอมรับที่ประกาศชื่อ”เอกนิติ-ศุภจี” เป็นแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทย เป็นการ”พูดไปเอง-เออไปเอง”…ทราบแล้วเปลี่ยน @@
ปิดท้ายสวนข่าววันนี้…จองชัย เที่ยงธรรม สะกิดเตือนความจำวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา สวนกระแสข่าวลือจะย้ายไปซบชายคาพรรคภูมิใจไทย ที่ครั้งหนึ่งผู้นำจิตวิญญาณพรรคนี้เคยล่วงเกินบิดาบังเกิดเกล้าอย่างดุเด็ดเผ็ดร้อน…ยังจำได้มั้ยเคยให้สัญญา “จะรักษามรดกของพ่อบรรหารไว้”…อย่าลืมซะล่ะ@@
ฮูก ตาตี่
