
..เปรี้ยงป้างปึงปังไม่บันยะบันยังต้องยกให้พรรคกล้าธรรม ของ”ผู้กองตุ๋ย” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หลังล้มแชมป์เก่าสนามเลือกตั้งซ่อมนครศรีธรรมราช…หัวกะไดฉ่ำแฉะมาก .ใครต่อใครอยากหอบผ้าหอบผ่อนมาอยู่ใต้ชายคาน่าอิจฉา @@
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ-การุณ โหสกุล อดีตส.ส.ที่อยู่เคียงข้างคุณหญิงหน่อย สุดารัตน์ เกยุราพันธ์ุ แสดงอาการย้ายค่ายจากไทยสร้างไทย ไปซบกล้าธรรม ขณะที่ อุตตม สาวนายน-สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ที่ปลดล็อคตัวเองจากพลังประชารัฐ ยังสงวนท่าทีสงบนิ่ง แต่เซียนการเมืองอ่านทางสุดท้ายหนีไม่พ้นไปเปิดตัวกับกล้าธรรม ด้วยแรงเหนี่ยวนำจากหัวหน้าพรรค “อาจารย์แหม่ม”นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ในฐานะต่างก็เป็นศิษย์สำนัก”สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” @@
พรรคเพื่อไทย ตีฆ้องร้องป่าวดับเครื่องเชียร์สุดใจขาดดิ้น G-Token เป็นผลงานโบว์แดง มาทดแทน เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ที่ส่อเค้า”ล่มปากอ่าว” ไปไม่ถึงฝั่งฝัน ถึงขั้นทำโปสเตอร์ยกยอปอปั้นเป็น “ก้าวสำคัญ เทคโนโลยีการเงินไทย ทางเลือกใหม่การลงทุนของประชาชน” โพนทนาสรรพคุณเลอเลิศเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีความมั่นคง-ให้ผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝากทั่วไป-ปลอดภัยโปร่งใส-บาทเดียวก็ลงทุนได้…ใช่เหรอ-ไม่จริงซะมั้ง @@
G-Token ที่พรรคเพื่อไทย เชิดชูเป็นผลงานโบว์แดง ส่อแววพลิกล็อคกลายเป็น”โบว์ดำ” แถมอาจเป็นชวนเหตุ”ฟ้าผ่า” ตายหมู่ทั้ง ครม. เมื่อแบงก์ชาติ เปิดหน้าแสดงความวิตกกังวล สวนทางกับบันทึกสรุปข่าวการประชุม ครม.๑๓ พ.ค.๒๕๖๘ อ้างเป็นตุเป็นตะแบงก์ชาติ-สำนักงบประมาณ-สำนักงานคณะกรรมการกฤษฏีกา-ก.ล.ต.-กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมพิจารณาให้ความเห็นชอบแล้ว….@@
ว่ากันตามจริงแล้ว G-Token ไม่ใช่”ทางเลือกใหม่การลงทุนของประชาชน” ตามคำโฆษณาปั่นกระแสของพรรคเพื่อไทย แต่มันมีความเสี่ยงสูงยิ่งที่จะเป็น”เส้นทางหายนะสายใหม่ของเงินลงทุนประชาชน”….บาทเดียวก็หมดเกลี้ยง ไม่เหลือ ไม่งั้นก.ล.ต.ไม่ย้ำเตือนหนักหนา @@
งวดเข้าไปทุกที คดีฮั้วเลือกตั้งส.ว.+คดีฟอกเงิน+คดีอั้งยี่ ที่เหนี่ยวนำให้กระทรวงมหาดไทย สายสีน้ำเงิน กับ กระทรวงยุติธรรม สายสีแดง เปิดหน้าปะทะกันดุเดือด ล่าสุดสายสีน้ำเงิน ไชโย กับคำวินิฉัยศาลรัฐธรรมนูญ สั่ง รมว.ยุติธรรม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ห้ามยุ่งเกี่ยวกับคดี จนกว่าจะมีคำวินิจฉัยเป็นอย่างอื่น แต่ไม่ห้ามรองนรม.และรมว.กลาโหม ภูมิธรรม เวชยชัย ทำหน้าที่กำกับคดีพิเศษต่อไป @@
ปิดท้ายสวนข่าววันนี้ เตือนภัยโควิด-ไข้หวัดใหญ่ระบาดหนัก…พ.ญ.จุไร วงศ์สวัสดี โฆษกกรมควบคุมโรค รายงานสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-๑๙ มีผู้ป่วยสะสมระหว่าง ๑ ม.ค.-๑๔ พ.ค. จำนวน ๗๑,๐๖๗ ราย ตาย จำนวน ๑๙ ราย ขณะที่ช่วงเวลาเดียวกัน ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ จำนวน ๓๒๘,๑๐๓ ราย ตาย ๓๓ ราย…สวมหน้ากากอนามัย-ล้างมือบ่อยๆคือทางป้องกันที่ดีและปลอดภัยสุด @@
ฮูก ตาตี่