…อเนจอนาถน่าสมเพชเวทนาชะตากรรมประเทศไทย ภายใต้รัฐบาลเพื่อไทยตกต่ำถึงขั้นกลายเป็นเบี้ยล่างให้ประเทศเพื่อนบ้านย่ำยี @@

ยิ่งพูดยิ่งพัง ยิ่งพูดยิ่งโชว์โง่ กรณีความตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา…หลังจากสาวเจนวาย ปล่อยรั่วอย่างแรงไปแล้ว เธอยังดันทุรังย้ำซ้ำๆหวังจะให้ชาวบ้านหลงเชื่อในความเป็น”หนึ่งเนื้อใจเดียวกัน” ของ รัฐบาลกับกองทัพ โดยลืมไปว่ายิ่งพูด ยิ่งตอกย้ำ ยิ่งซ้ำเติม”ความไม่น่าเชื่อถือ” ให้หนักแน่นยิ่งขึ้น @@

น่าแปลกกรณีความตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา คุณพ่อนายกฯแพทองธาร และประธานที่ปรึกษาประธานอาเซียน ที่แนบแน่นกับฮุน เซน พ่อนายกฯกัมพูชา สงวนท่าที”เงียบกริบ” ปราศจากความเคลื่อนไหว ปล่อยให้อันวาร์ อิบราฮิม นายกฯมาเลเซีย สวมบทประธานอาเซียน ออกโรงคลายเครียด โทรศัพท์ถึงแพทองธาร และฮุน มาเนต เรียกร้องให้ใช้ความอดกลั้นต่อไป ใช้มาตรการเพื่อลดความตึงเครียด และ ร่วมกันหาทางแก้ไขอย่างสันติ และ รอบด้าน…ขณะที่กองกำลังฝ่ายไทยและกัมพูชา ยาตราทัพตรึงสถานการณ์ตลอดแนวชายแดน @@

สถานเอกอัครราชฑูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทยออกแถลงการณ์ให้ไทยและกัมพูชา ใช้ความยับยั้งชั่งใจ ส่งเสริมการพูดคุยสื่อสารและเจรจากัน เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายลงโดยเร็ว โดยจีนยินดีที่จะประสานกับทั้งไทยและกัมพูชา @@

หันไปดูปฏิกิริยาฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ยึดมั่นในจุดยืนต้องจบข้อพิพาทที่ศาลโลก สวนทางกับจุดยืนนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ที่ยืนกราน “ไม่ไปศาลโลก”….@@

จุดยืนรัฐบาลไทย ต่อกรณีพิพาท ที่ฝ่ายกัมพูชา จงใจ”วางหมากเดินเกม”เขมือบดินแดนไทย เป็นจุดยืนที่ห้ามถอยเด็ดขาด แม้จะเศษเสี้ยวของมิลลิเมตร มิเช่นนั้น “เสียโง่”ตกหลุมพรางที่กัมพูชาจอมเจ้าเล่ห์ขุดไว้ และลงเอยด้วยการ”เสียดินแดน” ดุจเดียวกับกรณีเขาพระวิหาร….@@

หันมาดูการเมืองเรื่องปรับ ครม. ภูมิใจไทย ตั้ง ๒ เงื่อนไขต่อรองล่าสุด แลกกับการสละเก้าอี้ มท.๑ ให้เพื่อไทย ไปพิจารณา
๑).แลกตำแหน่ง มท.๑ กับ การคุมเบ็ดเสร็จ ๓ กระทรวงคือสาธารณสุข+คมนาคม+ท่องเที่ยวและกีฬา หรือ
๒).แลกตำแหน่ง มท.๑ กับ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ+กระทรวงเกษตรฯ+กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ+กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม….@@

ปิดท้ายสวนข่าววันนี้ มติที่ประชุมสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ยุค”มาดามแป้ง”นวลพรรณ ล่ำซำ เคาะมอบลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยลีก ๔ ฤดูกาล ระหว่างปี ๒๕๖๘-๒๕๗๒ ให้แก่กลุ่มบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด-บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด-บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด แลกกับรายได้ที่จะได้รับจำนวน ๒,๐๐๐ ล้านบาท เหลือเฟือสำหรับการล้าง”มรดกหนี้”กว่า ๖๖๐ ล้านบาท ที่อดีตนายกสมาคมฯทำไว้ และเหลือพอสำหรับการเติมเงินอัดฉีดให้สโมสรสมาชิก ทั้ง ๓ ลีก ๑๐๔ ทีม แบบฉ่ำๆ ตั้งแต่ฤดูกาลนี้เป็นต้นไป โดยไทยลีก ๑ จะได้เงินอัดฉีดเพิ่มเติม ๕๐% เป็น ทีมละ ๑๕ ล้านบาท ไทยลีก ๒ ได้เพิ่ม ๒๕% เป็นทีมละ ๔ ล้านบาท และไทยลีก ๓ ได้เพิ่ม ๒๕% เป็นทีมละ ๑.๒๕ ล้านบาท…เชื่อแป้งเถอะ-ไม่ผิดหวัง @@

ฮูก ตาตี่