
..เมืองไทยยุคสมัยคนเถื่อน-หมูเถื่อน-เนื้อเถื่อน-ของเถื่อนเกลื่อนตลาด สุจริตชนอยู่ยาก คนดีอยู่ลำบาก..@@
เมืองไทยเมืองพุทธ แต่พฤติกรรมแปลกพิลึกแห่กราบเทพ-ไหว้ภูติ-นับถือปีศาจ-ซาตาน…พุทธตรงไหน???@@
โหนกระแส”หมอกฤตไท สู้ดิวะ” นายกฯเศรษฐา โพล่งเดินหน้าร่างกฏหมายอากาศสะอาด กำชับฝุ่นP.M.๒.๕ ปีนี้ต้องดีกว่าปีก่อน…ถ้าไม่ดีขึ้นล่ะ จะมีน้ำยาไปทำอะไรได้ @@
ขอตะโกนถามหน่อยนะ “ร่างกฏหมายอากาศสะอาด” ที่จะเข็นผ่านรัฐสภา มันคือเครื่องมือกำจัด P.M.๒.๕ ได้จริงหรือเป็นแค่”ข้ออ้าง”ประโลมโลก อุปโลกน์โครงสร้างกลไกใหม่ภายใต้ร่างกฏหมาย มาล้างผลาญงบประมาณ ในเมื่อมีพ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม เป็นเครื่องมือ มีคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ รับผิดชอบเรื่องนี้อยู่แล้ว…นายกฯสั่ง”ขันน็อต”ให้แน่นขึ้น-กำกับติดตามการทำหน้าที่ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นดีกว่ามั้ง @@
มหันตภัยฝุ่นพิษ P.M.๒.๕ ที่เป็น”เพชฌฆาตเงียบ” คร่าชีวิต”หมอกฤตไท ธนสมบัติกุล”บุคลากรทางการแพทย์ด้านระบาดวิทยา มช.เป็นรายล่าสุด เมื่อวันที่ ๕ ธ.ค.ที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ ๑๘ มี.ค.๒๕๖๕ เคยคร่าชีวิต รศ.ดร.ภาณุวรรณ จันทวรรณกูร นักวิทยาศาสตร์ด้านจุลชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มช. โดยทั้งคู่ มีเหตุแห่งการเสียชีวิตคือ”มะเร็งปอด” และทั้งคู่ ล้วนให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพดีเยี่ยม ไม่ข้องแวะบุหรี่หรือของเมา…@@
ศ.นพ.ชายชาญ โพธิรัตน์ หน่วยวิชาโรคระบบการหายใจ เวชบำบัดวิกฤตและภูมิแพ้ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ บอก ฝุ่น P.M.๒.๕ เป็นอันตรายต่อสุขภาพของคนทุกช่วงวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้สูงอายุ จะมีความเสี่ยงสูงขึ้นที่จะป่วยเป็นทั้งโรคระบบทางเดินหายใจ/โรคหลอดเลือด เนื่องจากมีขนาดเล็กมากระดับ 1ใน 50 ของขนาดเส้นผม ทำให้สามารถแทรกตัวเข้าสู่หลอดเลือด และผ่านระบบทางเดินหายใจเข้าสู่ปอดได้โดยตรง…@@
ต้นตอก่อฝุ่น P.M.๒.๕ กรีนพีชประเทศไทย เคยเปิดโปงต่อสาธารณะเมื่อเดือนมี.ค.๒๕๖๖ ในรายงาน”ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ :การลงทุนข้ามพรมแดนและมลพิษทางอากาศข้ามพรมแดน” …วิบัติกรรมนี้เกี่ยวพันทุนระดับจักรวาลกลุ่มไหนคลำหาคำตอบได้ไม่ยาก @@
ฮูก ตาตี่