สวนข่าวประจำวันจันทร์ที่ ๒๔ มิ.ย. ๒๕๖๗ แรม ๓ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะโรง

ครบรอบ ๙๒ ปีแห่งการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากสมบูรณาญาสิทธิราชย์ สู่ประชาธิปไตยพอดิบพอดี แต่ประชาธิปไตยแบบไทยไทย ที่”ชิงสุกก่อนห่าม” ยังยักแย่ยักยัน ล้มลุกคลุกคลานในวังวนอุบาทว์ @@

พีระพันธ์ุ สาลีรัฐวิภาค รองนรม.และรมว.พลังงาน พูดได้ดี..สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยอย่าเพิ่งม็อบเลยนะ รออีกหน่อย คอยให้ดันกฏหมายเปลี่ยนระบบ เปลี่ยนรูปแบบการคิดราคาน้ำมันใหม่ แถมเปิดไฟเขียวให้สหพันธ์การขนส่งทางบกฯ นำเข้าน้ำมันได้เองเข้าสภาซะก่อน…ถามว่าเมื่อไหร่ล่ะ-โน่นเลยสมัยการประชุมหน้า หมายถึงสมัยประชุมที่จะเริ่มต้นวันที่ ๓ ก.ค.นี้ หรือสมัยประชุมหน้า ที่ต้องรอกันยาวๆไปถึงเดือนธ.ค.โน่นเลย….พ่อแม่พี่น้องขบวนการรถบรรทุกทั้งหลายว่าไง ???@@

“..มาม่าจะขึ้นราคายังต้องขออนุญาต แต่น้ำมันไม่ต้อง… “วลีนี้ของท่านรองนรม.และรมว.พลังงาน น่าจะคลาดเคลื่อน ความจริงคือ”น้ำมัน เป็นสินค้าควบคุมราคา”ตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.)ที่มีรมว.พาณิชย์ เป็นประธาน เพราะฉะนั้นการขึ้นราคาน้ำมัน ต้องขออนุญาตเช่นเดียวกับมาม่า…ทราบแล้วเปลี่ยน @@
อุตส่าห์ตีฆ้องร้องเป่าข้ามสัปดาห์ ให้ชาวบ้านปูเสื่อรอฟังรองนรม.และรมว.คลัง พิชัย ชุณหวชิร-ก.ล.ต.-ต.ล.ท.แถลงมาตรการขับเคลื่อนตลาดทุน ตอนเย็นวันนี้ แต่หลังสิ้นสุดการแถลง เสียงยี้ยี้ยี้ ดังกระหึ่ม…ผิดหวังไปตามกัน @@
ตราบใดก็ตามที่ ”ชอร์ตเซล-โปรแกรมเทรดดิ้ง” ยังได้รับการปกป้อง ทั้งที่เป็นเครื่องมือ ”ทุบหุ้น” เอื้อประโยชน์รายใหญ่-ทุนข้ามชาติ ขยี้รายย่อยตายเกลื่อน..ตราบนั้นรายย่อยจะเป็นเหยื่อโดนสูบจากรายใหญ่-ทุนข้ามชาติอย่างน่าเวทนา @@

กล้าดี..รมว.กลาโหม สุทิน คลังแสง ตวัดปากกาลงนามคำสั่งโละทิ้งยกกระบิคณะทำงานและที่ปรึกษา รวดเดียว ๔๔ คน ด้วยเหตุผลมากเกินจำเป็น ซ้ำร้ายบางรายใช้สถานะความเป็นคณะทำงานและที่ปรึกษาไปทำนอกลู่นอกรอย…คาใจอยู่นิดเดียว ทำไมสั่งวันนี้ ไม่มีผลทันที ต้องรอไปถึง ๓๐ มิ.ย.@@

รายนี้ยิ่งกว่ากินดีหมี หัวใจเสือ…”บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร.และ”ว่าที่ผบ.ตร.คนใหม่” ใส่เกียร์เดินหน้าท้าชน” ๓ ต.” บิ๊กต่อพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล-บิ๊กต่าย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธ์ุเพ็ชร์-บิ๊กเต่า พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว แถมข้ามรุ่นสอน นายกฯเศรษฐา อย่าลอยตัวเหนือปัญหา…เจ๋งอะ-แจ๋วหวะ@@

ปิดท้ายสวนข่าววันนี้…ขอกราบคารวะไว้อาลัยให้กับ”นักต่อสู้เพื่อคนยากไร้” บำรุง คะโยธา ที่ปิดสวิตซ์ชีวิต ละสังขารจากลาโลกนี้ไปในวันนี้ ด้วยวัย ๗๓ ปี @@

ฮูก ตาตี่

สวนข่าวประจำวันศุกร์ที่ ๒๑ มิ.ย. ๒๕๖๗ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะโรง

ผ่านฉลุยวาระที่ ๑ ไปเรียบร้อย สำหรับร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๕๖๘ ด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วยท่วมท้น ๓๑๑ เสียง ไม่เห็นด้วย ๑๗๕ เสียง งดออกเสียง ๑ เสียง…๑ เสียงเห็นด้วยของฝ่ายรัฐบาล ที่ตกหล่นไป เป็น ๑ เสียงที่รู้กันอยู่แก่ใจว่าเป็นใคร @@

ยิ่งขุด-ยิ่งลึก ยิ่งค้น-ยิ่งชัด พรรคการเมืองใหญ่ เหมือนหัวปักหัวปำหน้ามืดตามัวกับดิจิทัลวอลเล็ตโงหัวไม่ขึ้น จับสังเกตได้จากงบกลางในร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี ๒๕๖๘ ที่อภิปรายกัน ๓ วัน ๓ คืน และร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมงบประมาณประจำปี ๒๕๖๗ ที่อยู่ระหว่างปล้ำผีลุกปลุกผีนั่ง ในชั้นรับฟังความคิดเห็นประชาชน ทั้งที่อายุขัยปีงบประมาณ ๒๕๖๗ เหลือเวลาแค่ ๓ เดือนเศษ…โดยงบประมาณทั้ง ๒ ก้อน ล้วนเชื่อมโยงแนบแน่นอยู่กับดิจิทัลวอลเล็ต แต่พรางไว้ในชื่อ”กระตุ้นเศรษฐกิจ…”@@

มายาชวนฝันของวลี”กระตุ้นเศรษฐกิจ” กำลังถูก”คณะบุคคลผู้มีอำนาจ”ผลักไสประเทศเข้าสู่ภาวะเสี่ยง”สิ้นชาติ-สิ้นแผ่นดิน” ด้วยการแก้กฏหมายเปิดทาง”ขายชาติอย่างถูกต้องตามกฏหมาย” เอื้อทุนต่างด้าวยาตราทัพเข้ายึดครอง-ครอบงำประเทศไทย โดยใช้ข้ออ้าง”เพื่อดึงดูดเม็ดเงินจากต่างประเทศ”…แล้วต่อไปเราจะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง @@

ขอโทษเถอะ..เมืองไทยแห้งแล้งกันดารเงินลงทุน ถึงขั้นต้อง”ขายชาติ แลกเงินลงทุนต่างด้าว”กันแล้วหรือ??? คำตอบคือไม่ใช่อย่างยิ่ง เมืองไทยยังคงอุดมสมบูรณ์ คนไทยยังมีเงินลงทุนเหลือเฟือ เหลือถึงขั้นเคลื่อนย้ายเงินลงทุนไปซื้อธุรกิจมากมายก่ายกองในหลายประเทศ ทั้งในเอเซีย-ยุโรป-อเมริกา-ตะวันออกกลาง…@@

ประมูลขายข้าวข้ามทศวรรษ ของ องค์การคลังสินค้า สังกัดกระทรวงพาณิชย์ ที่ดูเรียบร้อย ราบรื่น ส่อเค้าออกอาการสะดุด ต้องเลื่อนประกาศรายชื่อบริษัทผู้ชนะประมูล จากวันที่ ๒๑ มิ.ย.ออกไปเป็น ๒๔ มิ.ย. แถมบริษัทผู้เสนอราคาซื้อสูงสุด เป็นอันดับ ๑ อาจไม่ใช่ผู้ชนะ…ที่นี่ประเทศไทย อะไรก็เกิดขึ้นได้ @@

ปิดท้ายสวนข่าววันนี้…ได้ฤกษ์เปิดรายการเศรษฐาโชว์ ภายใต้ชื่อ”คุยกับเศรษฐา”ซะที เริ่มพรุ่งนี้ เสาร์ที่ ๒๒ มิ.ย.เป็นประเดิม ติดตามรับชมและรับฟังได้ตามอัธยาศัย หลายช่อง หลายคลื่นความถี่ หลายช่วงเวลา ทั้ง เอ็นบีที-ททบ.๕-อสมท.-สวท. @@

ฮูก ตาตี่

สวนข่าวประจำวันพฤหัสบดีที่ ๒๐ มิ.ย. ๒๕๖๗ ขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะโรง

เรียบร้อยสำนักงานตำรวจแห่งชาติกันไปแล้ว เมื่อ”บิ๊กต่อ”พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.และ”บิ๊กโจ๊ก”พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร.ได้รับ”ไฟเขียว”กลับคืนสู่สถานะเดิม เหมือนไม่มีอะไรในกอไผ่…นี่แหละบริหารราชการแบบไทยไทย @@

สงสัยคาใจไปทั้งบาง…คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีพิพาท”บิ๊กต่อ-บิ๊กโจ๊ก” ที่มี ฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดมหาดไทยที่วันนี้ใส่หมวกหลายใบ เป็นประธานหลายที่ทำหน้าที่ประธาน มีบทสรุปผลการตรวจสอบ ๑).”บิ๊กต่อ”-”บิ๊กโจ๊ก” พิพาทกันจริง ๒).กรณีพิพาทระหว่าง”บิ๊กต่อ”-”บิ๊กโจ๊ก” มีนับ ๑๐ กรณี ๓).ความพิพาทกันของ”บิ๊กต่อ”-”บิ๊กโจ๊ก” เป็นชนวนเหตุแห่งความแตกแยก แบ่งฝักฝ่ายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ…น่าสังหรณ์ใจต่อไปสตช.เข้าสู่โหมดเปิดหน้าแบ่งขั้วฟัดกันนัวเนีย สุดท้ายฝ่ายที่เกษียณสิ้นอายุขัยราชการก่อน ลงเอยด้วยความปราชัย @@

สัญญาณชิ่งของขั้วตรงข้าม”บิ๊กโจ๊ก” เริ่มกระพริบวิบวับให้สังเกตได้ จากปฏิกิริยานายตำรวจใหญ่ระดับ”ผู้บัญชาการ” ที่เหมือนมีญาณวิเศษหยั่งรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า แสดงท่าทีสมัครใจลาออกจากราชการ ก่อนเกษียณ…ชิงออกซะ ก่อนต้องติดบ่วงความซวย @@

“บิ๊กต่าย”พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธ์ุเพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร.ที่ใช้อำนาจลงนามคำสั่งให้”บิ๊กโจ๊ก”ออกจากราชการไว้ก่อน ยามนี้น่าจะเกิดอาการกระสับกระส่าย ครั่นเนื้อครั่นตัว เมื่อ เกจิด้านกฏหมายอย่าง วิษณุ เครืองาม ในฐานะที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี พูดชัด “กระบวนการออกคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ไม่เรียบร้อย”…งานเข้าปังปังจังจังเลยซินะ @@

ขอปรบมือรัวรัวให้ปปป.-ปปท.-ปปช.ที่สานพลังกันกวาดต้อน ๔ ข้าราชการสำนักงานส.ป.ก.โคราช ร่วมกันแสวงประโยชน์จากการจัดสรรที่ดิน ส.ป.ก.โดยทุจริตอย่างเป็นล่ำเป็นสัน จำนวนหลายร้อยไร่…มิน่าผืนป่าแถวปากช่อง-เขาใหญ่ ถูกเสกเป็นที่ดินส.ป.ก. แล้วนำไปแปรสภาพออกเอกสารสิทธิ์ ปลูกรีสอร์ทกันเป็นดอกเห็ด…@@

ปิดท้ายสวนข่าววันนี้..ดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจไทยสมัยรัฐบาลเพื่อไทยดีใจหายใจคว่ำ ถึงขนาดค่ายรถบีวายดี ประกาศทุบราคาขายลงคันละ ๑๘-๒๐% จากคันละ ๘๕๙,๙๙๙ บาท เหลือคันละ ๖๙๙,๙๙๙ บาท และจากคันละ ๖๙๙,๙๙๙ บาท เหลือคันละ ๕๕๙,๙๙๙ บาท ทั้งที่ก่อนหน้านี้ทุบราคาขายแบตเตอรี่ลงไปแล้วหลักหลายแสนบาท จาก ๖๕๐,๐๐๐ บาท เหลือ ๓๗๐,๐๐๐ บาท…จับตาสงครามถล่มราคารถยนต์ซัดกันสะบั้นหั่นแหลก เร็วเร็วนี้ @@

ฮูก ตาตี่

สวนข่าวประจำวันพุธที่ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๖๗ ขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะโรง

เบิกม่านโหมโรงบรรเลงในสภาผู้แทนราษฏรไปแล้ว การพิจารณาร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๕๖๘ วงเงิน ๓.๗๕ ล้านล้านบาท บนฐานการขาดุลกว่า ๘.๖ แสนล้านบาท หวุดหวิดชนเพดานการก่อหนี้ ตามกรอบวินัยการเงินการคลัง@@

นายกฯเศรษฐา ทวีสิน สร่างไข้โควิด ยืนทน-พูดทน ใช้เวลาแถลงร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๕๖๘ ยาวเหยียด ๙๐ นาที ตั้งแต่ ๙ โมงครึ่งยัน ๑๑ โมง…ฟังแล้วได้แต่ตั้งจิตภาวนาขอพรพระสยามเทวาธิราช และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายได้โปรดอุปถัมภ์ค้ำชูประเทศไทย-ประชาชนไทยให้รอดปลอดภัยจากความทุกข์ยากอดอยากด้วยเถิด @@

พลิกดูสาระในร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๕๖๘ เทียบเคียงกับพ.ร.บ.งบประมาณก่อนหน้า พบเห็นความแตกต่างชัดเจนแค่ปี-วงเงิน-ยอดขาดดุล นอกเหนือจากนั้น…งั้นงั้นแหละ เหมือน”ตัดแปะ”ต่อต่อกันมา @@

นโยบายแนวทางจัดทำงบประมาณ สวยหรูดูดี ที่นายกฯเศรษฐา เคยประกาศไว้ เมื่อวันที่ ๒ ต.ค.๒๕๖๖ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “งบประมาณแบบฐานศูนย์” หรือ Zero-Based Budgetting -รายจ่ายลงทุนต้องมีรายละเอียดชัดเจน-โครงการ/แผนงานต้องทำตามความจำเป็นเร่งด่วน สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และมีตัวชี้วัดสะท้อนประสิทธิภาพ ประสิทธิผลชัดเจน….ถูกทิ้งขว้างไม่ต่างอะไรกับนโยบายไร้ค่าไร้ความศักดิ์สิทธิ์ ราวกับไม่เห็นศีรษะคนเป็นนายกรัฐมนตรี @@

โป๊ะแตกกระจุยกระจายกรณีเรือน้ำมันเถื่อน ล่องหนจากท่าเทียบเรือตำรวจน้ำ สัตหีบ สืบสาวราวเรื่องกลายเป็นผลงานอุบาทว์ข้าราชการตำรวจ สังกัดบช.ก.สมคบนายทุนเถื่อน…เน่าแล้ว-เน่าอยู่….ยังจะมีเน่าต่อไปวงการตำรวจไทย หึ่งตั้งแต่หัวยันหาง @@

ปิดท้ายสวนข่าววันนี้…ไม่รู้จะงึมงำอมพะนำร่ำไรหาพระแสงอะไร แค่เรื่องให้พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. คืนรัง กลับสู่สถานะเดิม หรือว่ามีความไม่ชอบมาพากลแอบแฝงซ่อนเร้นท่วมปากอยู่ ?@@

ฮูก ตาตี่

สวนข่าวประจำวันอังคารที่ ๑๘ มิ.ย. ๒๕๖๗ ขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะโรง

ผ่านมาและผ่านไปเรียบร้อย ตามความคาดหมาย สำหรับดราม่าการเมือง ๔ เรื่อง ๔ รส ไม่มีอะไรเซอร์ไพร์ส @@
นช.ทักษิณ ชินวัตร จำเลยคดีม.๑๑๒ และพ.ร.บ.คอมฯ ได้รับการประกันตัว ในวงเงินมโหฬารมหาศาลสำหรับยาจกวณิพกถึง ๕ แสนบาท…ขอย้ำมากถึงตั้ง ๕ แสนบาทเชียวนะ @@

พรป.การได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา ศาลรธน.วินิจฉัยแล้ว มีมติเป็นเอกฉันท์”ไม่ขัดรธน.” การเลือกตั้งส.ว.ที่เกิดขึ้นไปแล้ว และที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันพุธที่ ๒๖ มิ.ย. กกต.เดินหน้าได้เต็มสูบ…ลุยโลด!!@@

อาการพิสดารพันลึกของรัฐบาลเศรษฐา ผุดขึ้นรัวรัว วันก่อนรมช.คลังเป็นตุเป็นตะ เงินดิจิทัลวอลเล็ต ซื้อโทรศัพท์มือถือได้-ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ ผ่านไปไม่ทันนกกระจอกกินน้ำ รมช.คนเดียวกันอ้อมแอ้ม”คืนคำ”ซะงั้น…ล่าสุดเวทีประมูลขายข้าวโกโรโกโสข้ามทศวรรษ ไชโยโห่ฮิ้วคุยโวโอ้อวดน้ำลายไม่ทันแห้ง ต้องรีบพลิกลิ้นสั่งตรวจสอบผู้ชนะประมูลอย่างละเอียด หลังถูกตั้งข้อสงสัย มีทุนแค่ ๒ ล้านบาท แต่ประมูลซื้อข้าวรัฐวงเงินหลายร้อยล้านบาทก็ได้เหรอ…อ้าว!!ก็ไหนว่าตรวจสอบคุณสมบัติผู้เข้าประมูลก่อนเปิดประมูลดิบดีแล้วไง @@

หายจากหน้าสื่อไปหลายวัน “บิ๊กโจ๊ก”พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล กลับมาแล้ว พร้อมกับ ๒๔,๐๘๕ รายชื่อประชาชน ยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฏร เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบ”ปปช.คนหนึ่ง” มีพฤติกรรมร่ำรวยผิดปกติ-ทุจริตต่อหน้าที่-ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง…หมากเกมนี้จะลงเอยอย่างไร ต้องตามดูกันต่อไป @@

ขอแสดงความยินดีกับ ผีึ้งรวง ประเสริฐพานิชการ-ประเวศ รักษพล-วิชญ์ชัย ธรรมประดิษฐ์-อนุชา ฮุนสวัสดิกุล-ศรัณยู โพธิรัชตางกูร ได้รับเสียงโหวตอย่างท่วมท้นจากสมาชิกวุฒิสภาให้ดำรงตำแหน่ง”ตุลาการศาลปกครองสูงสุด” @@

ปิดท้ายสวนข่าววันนี้…ควันหลงกรณีปวิณ ภิรมย์ภักดี ประธานบีจีปทุมยูไนเต็ดเอฟซี เมินดอกไม้ช่อใหญ่ของ”มาดามแป้ง”นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมฟุตบอลฯ แล้วโดนทัวร์เทกระจาดสาดเสียเทเสีย อยากวิงวอนให้ลองตั้งสติแล้วใช้ปัญญาแสวงหาคำตอบ “ทำไมปวิณทำอย่างนั้น?/ปวิณ โดนหักหลังหรือเปล่า?-ปวิณโดนใครบางคนแถวพนมรุ้ง ซ่อนแอบชายกระโปรงแทงข้างหลังหรือไม่?/ใครบางคนแถวพนมรุ้ง หวาดระแวงบารมี ปวิณ จะเป็นเหตุให้สิงห์ผงาดเหนือช้างในสมาคมฯหรือไม่???”…รู้แล้วช่วยบอกหน่อยเถอะ อย่าให้ต้องรอไป”ถามกูซิ”!!!@@

ฮูก ตาตี่

สวนข่าวประจำวันจันทร์ที่ ๑๗ มิ.ย. ๒๕๖๗ ขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะโรง

ผ่านไปแล้วการเลือกตั้ง ส.ว.แบบอนาธิปไตยใต้เสื้อคลุมประชาธิปไตย รอบจังหวัด ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์สารพัดสารเพ…หาดีไม่ได้ @@

บทส่งท้ายเลือกตั้งส.ว.รอบจังหวัด จำแนกสายพันธ์ุส.ว.ออกได้ ๘ สายพันธ์ุ ๑).ส.ว.ทาสพรรคการเมือง ๒).ส.ว.บริวารกลุ่มทุน ๓).ส.ว.ฮั้ว ๔).ส.ว.จับฉลาก ๕).ส.ว.ทรยศ ๖).ส.ว.โหนกระแส ๗).ส.ว.โสเภณี ๘).ส.ว.อิสระ…ส.ว.สายพันธ์ุ ๑-๗ ดูจะชุกชุมที่สุด @@

พรุ่งนี้แล้วซินะ ๑๘ มิ.ย.”วันฝนตก คดีไหล คนอะไรมาเจอกัน”…นช.ทักษิณ ชินวัตร จะยอมไปรายงานตัวที่สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อส่งฟ้องศาลคดีม.๑๑๒ หรือไม่-นช.ทักษิณ จะได้รับการประกันตัว ไม่ต้อง”เช็คอิน”เข้าเรือนจำหรือไม่-ถุงขนม ๒,๐๐๐ ล้านบาท แลกอิสรภาพ นช.ทักษิณ มีจริงหรือไม่…ได้รู้ดำรู้แดงกัน @@

ศาลสถิตยุติธรรมตาดู-หูฟัง-ใส่ใจเสียงชาวบ้าน…สรวิศ ลิมปรังษี โฆษกศาลยุติธรรม บอกที่ประชุมคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม(ก.ต.) เสนอประธานศาลฏีกา พิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการสดับตรับฟังข้อเท็จจริง เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น กรณีมีข่าวปรากฏตามสื่อต่างๆ ทำนองว่ามีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม และพยายามวิ่งเต้นเรื่องการประกันตัวผู้ต้องหาบางราย…@@

๑๘ มิ.ย. ยังต้องลุ้นระทึก คดี กกต.ถูกร้องออกระเบียบว่าด้วยการเลือกตั้งส.ว. ชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่…ถ้าผลลัพธ์เป็นไปตามคำร้อง การเลือกตั้งส.ว.ที่ผ่านไปแล้ววันที่ ๙ มิ.ย.-วันที่ ๑๖ มิ.ย. และที่กำลังจะมีขึ้นวันที่ ๒๖ มิ.ย. มีความน่าจะเป็นสูงมากที่จะ”ล่มและล้ม”…..ส.ว.ชุด คสช.ได้ไชโยโห่หิ้ว ตีตั๋วรักษาการไปยาวยาว @@

รุ่นเก๋าลายครามอย่าง สมศักดิ์ เทพสุทิน สวมบท รมว.สาธารณสุข ทำงานฉับไวจัดระเบียบยาบ้า ประทับใจชาวบ้าน เดินหน้าลุยจัดระเบียบกัญชา แถมประกาศจุดยืนชัดเจน “ไม่บ้าจี้”หนุนขยายเวลาเปิด สถานบริการถึง ตี ๔ ด้วยชุดข้อมูลสถิติผลลัพธ์จากการทดลอง ขยายเวลาเปิดสถานบริการถึงตี ๔ ใน๕ พื้นที่นำร่อง กรุงเทพมหานคร-ภูเก็ต-ชลบุรี-เชียงใหม่ และ เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พบว่า รายได้จากการขายเพิ่มขึ้น ๕๕% น้อยกว่ากัน”ครึ่งต่อครึ่ง” กับ ๑๗ เมืองหลัก กาญจนบุรี-นนทบุรี-ปทุมธานี-อยุธยา-สระบุรี-ฉะเชิงเทรา-ระยอง-สมุทรปราการ-นครปฐม-สมุทรสาคร-เพชรบุรี-ประจวบคีรีขันธ์-พังงา-กระบี่-สงขลา-ขอนแก่น-นครราชสีมา ที่ไม่ขยายเวลาเปิดบริการ แต่กลับมีรายการจากการขายโตขึ้นถึง ๑๐๓.๒% เลวร้ายยิ่งกว่านั้นคือ ๕ พื้นที่นำร่อง มีสถิติตายจากอุบัติเหตุบนท้องถนน เพิ่มขึ้น ๑๓.๔% อีกทั้งข้อปฏิบัติทั้งการตรวจวัดแอลกอฮอลลูกค้าก่อนออกจากร้าน-การปฏิเสธการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอลแก่ลูกค้าเมาไม่ได้สติ….เกือบร้อยทั้งร้อย”พูดแล้วไม่ทำ”และเจ้าหน้าที่รัฐเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ปล่อยปละละเลย @@

ปิดท้ายสวนข่าววันนี้…ความเปราะบางทางเศรษฐกิจ+ความปวกเปียกทางการเมือง พาประเทศสู่ความมืด ฉุดดัชนีราคาหุ้นวันนี้ทรุดวูบลงเหลือ ๑,๒๙๖.๕๙ จุด ต่ำกว่าระดับ ๑,๓๐๐ จุดเป็นครั้งแรกในรอบ ๔ ปี และถอยหลังกลับไปวันที่ ๒ ม.ค.ที่ตลาดเปิดทำการประเดิมศักราชใหม่เป็นวันแรก ดัชนีวันนั้นปิดที่ ๑,๔๓๓.๓๘ จุด มาถึงวันนี้ ดัชนีราคาหุ้นหายวับไปแล้ว ๑๓๖.๗๙ จุด คิดเป็น ๙.๕๔ % มูลค่าความมั่งคั่งของตลาดหุ้น สังเวยความซังกะบ๊วยห่วยแตกของผู้บริหารบ้านเมืองไปแล้ว ๑.๕๓ ล้านล้านบาท….มากกว่างบดิจิทัลวอลเล็ตที่ยังมั่วกันไม่เสร็จถึง ๓ เท่าตัว…โปรดทราบโดยทั่วกัน@@

ฮูก ตาตี่

สวนข่าวประจำวันศุกร์ที่ ๑๔ มิ.ย. ๒๕๖๗ ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะโรง

นับจากนี้อีก ๒ วัน ถึงคิวเลือกส.ว.ระดับจังหวัดอีก ๒ รอบ กระแสข่าวสะพัดว่าด้วยการทุ่มเงิน”ซื้อ-ขายเสียง”หนักมาก…ว่ากันที่”หลักหมื่น” @@

กกต.ลุยจัดเลือกตั้ง ส.ว.ไปบนความเสี่ยงล่ม-ล้ม หากถึงที่สุด ศาลรธน.วินิจฉัย”การจัดการเลือกตั้งขัดรัฐธรรมนูญ” เป็นเหตุให้การเลือกตั้ง “เป็นโมฆะ”…กกต.ชุดอิทธิพร บุญประคอง อาจต้องลงเอยแบบเดียวกับชุดพล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ @@

“บิ๊กแจ๊ส” พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้สมัครนายก อบจ.ปทุมธานี ส่งทนายร้อง กกต.เช็คบิล ผู้สมัครบางคนที่ได้แรงหนุนจาก นักโทษชายที่อยู่ระหว่างพักโทษ จัดกิจกรรมช่วยหาเสียงในลักษณะ “มหรสพ” เข้าข่ายผิดพ.ร.บ.เลือกตั้ง…เวลาเปลี่ยน-ผลประโยชน์เปลี่ยน คุณค่าความหมายของวลี”มีวันนี้ เพราะพี่ให้” ไม่น่าจะต่างอะไรกับ “ผายลม” @@

๑๘ มิ.ย.กลายเป็น”วันชุมนุมคดีการเมือง” ชี้ชะตากรรมประเทศไทยไปโดยปริยาย มีทั้งคดียุบพรรคก้าวไกล-ถอดถอนนายกรัฐมนตรี-เลือกตั้งส.ว.-ทักษิณติดบ่วงม.๑๑๒ แต่คดีที่น่าจับจ้องที่สุด คือ”ทักษิณ ติดบ่วงม.๑๑๒” เมื่อถึงกำหนดนัดหมาย ทักษิณ จะโผล่ไปรายงานตัวที่สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อนำตัวส่งฟ้องศาลหรือไม่…หรือทักษิณ จะแปลงร่างเป็น “ขอมดำดิน” ล่องหนหายตัวไปเหมือนเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อน @@

เมืองไทยยุคดิจิทัล ต่ำตมสวนทางเทคโนโลยีสมัยใหม่…ลัทธิ-ความเชื่องมงายผุดเป็นดอกเห็ด ทั้งเชื่อมจิต-ถวายตัวมั่วเซ็กส์-อธิษฐานจิตอ้อนวอนพระเจ้า และยกระดับความสามานย์เย้ยนรกอเวจี ถึงขั้นแอบอ้างเอาเลือดหลวงพ่อคูณ ไปเป็นมวลสารปลุกเสกวัตถุมงคล ตุ้มตุ๋นทรัพย์สินเงินทองชาวบ้าน…@@
การครองชีวิตทุกวันนี้ ต้องตั้งมั่นในความมีสติ เจริญศีล เจริญธรรม เพื่อยังให้เกิดปัญญา รู้เท่าทันอุบายสกปรกโสมมสารพัดที่ล้วนเกรอะกรังด้วยอวิชชา..@@

พฤติกรรมอุบาทว์สามานย์แอบอ้างเลือดหลวงพ่อคูณ ทำวัตถุมงคล ขืนเจ้าหน้าที่รัฐปล่อยปละละเลยไม่จัดการขั้นเด็ดขาด เชื่อว่ามันจะเพิ่มความเข้มข้นของการแพร่เชื้อชั่วระบาดไปถึงการอุปโลกน์ธาตุขันธ์ ของพระอรหันต์ ไปปลุกเสกวัตถุมงคล…ต้องขุดรากถอนโคนโดยไว @@

ปิดท้ายสวนข่าววันนี้…นับจากกลางดึกคืนนี้ต่อเนื่องไป ๑ เดือน คนไทยหลายล้านคน จะใช้ชีวิตเลียนแบบ”นกฮูก” เพื่อลุ้นผลฟุตบอลยูโร ที่จะประเดิมเปิดสนามระหว่างทีมชาติเยอรมนี เจ้าบ้าน กับ ทีมชาติสก็อตแลนด์…ตามลุ้นตามเชียร์กันได้ตั้งแต่ตี ๒ เป็นต้นไป ทางหน้าจอ พีพีทีวี หมายเลข ๓๖

ฮูก ตาตี่

สวนข่าวประจำวันพฤหัสบดีที่ ๑๓ มิ.ย. ๒๕๖๗ ขึ้น ๗ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะโรง

กทม.-กรมปศุสัตว์ ยกโขยงตรวจโซนค้าสัตว์เลี้ยงส่วนที่ปลอดภัยจากโศกนาฏกรรมไฟไหม้ พบผู้ค้าส่วนใหญ่ ทำมาหากินโดยไม่มีใบอนุญาตถูกต้องตามกฏหมาย ของกรมปศุสัตว์ นี่ถ้าไฟไม่ไหม้-สัตว์เลี้ยงไม่ตายหมู่อย่างน่าอเนจอนาถคงขายสัตว์เลี้ยงแบบผิดกฏหมายกันไปเรื่อย @@

เมืองไทยอะไรก็เกิดขึ้นได้…เรือบรรทุกน้ำมันลำเบ้อเร่อเท่อ กลายเป็น”เรือดำน้ำ”ซะงั้น จู่ๆก็ดำน้ำล่องหนหายวับไปอย่างไร้ร่องลอย ถึง ๓ ลำ พร้อมกับน้ำมันเถื่อนกว่า ๓ แสนลิตร และลูกเรือกอีกนับสิบคน ทั้งที่อยู่ในความดูแลของตำรวจน้ำ…กินเนสบุ๊คเวิร์ลเร็คคอร์ดน่าจะบันทึกไว้เป็นที่สุดของความพิสดารพันลึก @@

กรณีเรือบรรทุกน้ำมัน ๓ ลำ กลายเป็นเรือดำน้ำ ล่องหนไปพร้อมน้ำมันเถื่อนและลูกเรือ อย่าตัดจบแค่สั่งเด้งตำรวจน้ำ ๕ นาย เข้ากรุ แต่น่าจะต้องนำมาถอดบทเรียน เร่งรัดกระบวนการยุติธรรมให้รวดเร็วขึ้น ไม่ใช่จับเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อนมาตั้งแต่ ๑๗ มี.ค.๖๗ แล้วนำไปจอดแช่น้ำไว้ที่ท่าเรือตำรวจน้ำสัตหีบ นานเกือบ ๓ เดือน ตั้งแต่ ๑๙ มี.ค.๖๗ เพื่อรอกระบวนการดำเนินคดีตามกฏหมายแบบ”หวานเย็น” กระทั่งเรือล่องหนหายไปกลางดึกวันที่ ๑๑ มิ.ย.๖๗..@@

ในพื้นที่รับผิดชอบของตำรวจ เรือบรรทุกน้ำมัน กลายเป็น เรือดำน้ำ ตำรวจน้ำระดับ”นายพัน”โดนเด้ง…ในพื้นที่ทหาร กองทัพภาคที่ ๒ มีประเด็น”รีดค่าสูบส้วม” ทหารเกณฑ์ “ผู้พัน” ก็โดนเช็คบิลเหมือนกัน @@

ไปตรวจชีพจรเศรษฐกิจกันหน่อย…ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย รายงานดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค งวดล่าสุดเดือนพ.ค. 67 อยู่ที่ 60.5 ปรับตัวลดลง ๓ เดือนติด และเป็นระดับความมั่นต่ำสุดในรอบ ๗ เดือน โดยมีสาเหตุหลักมาจากพายุหมุนทางการเมือง..ไม่รู้นายกฯเศรษฐา จะโดนสอยมั้ย-ไม่รู้ ทักษิณ จะเช็คอินเรือนจำรีสอร์ทมั้ย-ไม่รู้ก้าวไกล จะโดนยุบมั้ย-ไม่รู้เลือกตั้ง ส.ว.จะล้มมั้ย @@

ปิดท้ายสวนข่าววันนี้…ลุ้นผลการเคาะชื่อผจก.ตลาดหุ้นคนที่ ๑๔ ในวันที่ ๑๔ มิ.ย. ใครจะโฮ-ใครจะเฮ ระหว่าง อัสสเดช คงสิริ กับ อัฏฐ์ ทองใหญ่ อัศวานันท์ ที่มี บมจ.แสนสิริเป็นลมใต้ปีก ขณะที่ แมนพงศ์ เสนาณรงค์ เต็งจ๋ามาแต่ต้น หลุดวงโคจรไปอย่างเหนือความคาดหมาย และเจ้าตัวตัดสินใจ “ลาออก”จากความเป็นรองผจก.ตลาดหลักทรัพย์ฯเรียบร้อยแล้ว @@

ฮูก ตาตี่

สวนข่าวประจำวันพุธที่ ๑๒ มิ.ย. ๒๕๖๗ ขึ้น ๖ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะโรง

โอ้ฮะโอ้ฮะโอฮะโอ้ คดีกกต.ร้องยุบพรรคก้าวไกล ส่อเค้าฉายแวว”ยกคำร้อง” หากกกต.ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมต่อศาลฯไม่ครบถ้วน หาไม่ศาลฯเสี่ยงถูกเหมารวมร่วมกระทำความผิดไปด้วย….อ.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต แห่งนิด้า ให้สัมภาษณ์สื่อในเครือมติชน @@

ท่าทาง กกต.กำลังงานเข้ารัวรัว ไหนจะต้องจัดหาข้อมูลเพิ่มเติมคดียุบพรรคก้าวไกลตามคำสั่งศาลฯ…ไหนจะต้องทำใจเตรียมรับคำวินิจฉัยของศาลว่าด้วยการจัดการเลือกตั้ง ส.ว.ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่…ทั้ง ๒ เรื่องเกิดขึ้นในวันเดียวกัน อังคารที่ ๑๘ มิ.ย.นี้ @@

พิลึกพิลั่นดีจังกับเหตุผลสนับสนุนมติ กนง.ในการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ ๒.๕% โดย ปิติ ดิษยทัต ผู้ช่วยผู้ว่าการแบงก์ชาติ บอก “..เศรษฐกิจมีสัญญาณฟื้นตัวชัดเจนดีขึ้น…” ก็ถ้ามันดีจริงตามพูด แล้วแบงก์ชาติ ชวนสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย-สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย-สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย-สมาคมธุรกิจเช่าซื้อไทย ไปคุยอะไรกันในวันที่ 17 มิ.ย.นี้..อย่าบอกนะว่าชวนไปเฮฮาปาร์ตี้ @@

บทวิเคราะห์ KKP Research ของกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร เรื่อง “โรงงานไทยที่กำลังปิดตัว บอกอะไรเรา ?” บ่งชี้อาการป่วยของระบบเศรษฐกิจ ด้วยชุดข้อมูลอัตราการปิดโรงงานที่ไต่ระดับเพิ่มขึ้นน่าขนหัวลุก จากค่าเฉลี่ยการปิดโรงงาน ๕๗ โรงต่อเดือน ในปี ๒๕๖๔ เพิ่มขึ้นกว่า ๔๕% เป็น ๘๓ โรงต่อเดือน ในปี ๒๕๖๕ และเพิ่มขึ้นไปอีกกว่า ๙๑% เป็น ๑๕๙ โรงต่อเดือนช่วงครึ่งหลังของปี ๒๕๖๖…@@

บทวิเคราะห์เดียวกันของ KKP Research สรุปยอดจำนวนโรงงานปิดตัวระหว่างม.ค.๒๕๖๕-มี.ค.๒๕๖๖ จำนวน ๑,๑๐๖ โรง และระหว่างม.ค.๒๕๖๖-มี.ค.๒๕๖๗ มีโรงงานปิดตัว เพิ่มขึ้นถึงกว่า ๕๔% เป็นจำนวน ๑,๗๐๔ โรง ส่งผลกระทบทำให้คนงานถูกเลิกจ้าง ช่วงม.ค.๒๕๖๕-มี.ค.๒๕๖๖ จำนวน ๓๑,๖๓๘ คน และคนงานถูกเลิกจ้างช่วง ม.ค.๒๕๖๖-มี.ค.๒๕๖๗ เพิ่มขึ้นกว่า ๓๓% เป็น ๔๒,๐๙๔ คน…เบ็ดเสร็จระหว่าง ม.ค.๒๕๖๕-มี.ค.๒๕๖๗ มีโรงงานปิดตัวไปแล้ว ๒,๘๑๐ โรง มีคนงานถูกเลิกจ้างไปแล้ว ๗๓,๗๓๒ คน…@@

บทวิเคราะห์ KKP Research ยังรายงานยอดการเปิดโรงงานสุทธิ (จำนวนโรงงานเปิดหักลบด้วยโรงงานปิด) ในภาพรวม มีอาการชะลอตัวลงอย่างมาก จากค่าเฉลี่ยที่เป็นบวกสุทธิประมาณ 150 โรงงานต่อเดือน ลดลง ๒ ใน ๓ เหลือเพียง 50 โรงงานต่อเดือน สวนทางอย่างแรงกับคำบอกเล่าของปิติ ดิษยทัต ผู้ช่วยผู้ว่าการแบงก์ชาติ ที่ให้ข้อมูล… มีจำนวนการเปิดกิจการราว 4,000-5,000 ต่อเดือน และปิดกิจการราว 1,000 ต่อเดือน จำนวนการเปิดกิจการ มากกว่าจำนวนการปิดกิจการตั้ง ๔-๕ เท่า….เชื่อ KKP Research แล้วเครียด-เชื่อ ปิติ ดิษยทัต แล้วสบายใจดี @@

ปิดท้ายสวนข่าววันนี้…กรณีผัวนักร้องปะฉะดะกับเมีย แบบฉายหนังกลางแปลงอวดสำแดงรายได้เกทับบลั๊ฟแหลกกันอุตลุด สุดท้ายหนีไม่พ้น”ซวยหมู่” โดนสรรพากร ตรวจสอบความถูกต้องในการเสียภาษี แถมอาจซวยสถานหนักถึงขั้นเป็น”จำเลย”คดีภาษี โทษฐานเสกเงินได้ เป็นเงินยืม จงใจหลบเลี่ยงการเสียภาษี….พฤติกรรมแบบนี้สรรพากรช้อบชอบ @@

ฮูก ตาตี่

สวนข่าวประจำวันอังคารที่ ๑๑ มิ.ย. ๒๕๖๗ ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะโรง

เอ็นเกมปิดประตูสู่ฟุตบอลโลก ๒๐๒๖ ที่อเมริกาเหนือไปเรียบร้อย สำหรับทีมชาติไทย ทั้งที่ทำประตูเอาชนะสิงคโปร์ไปได้ ๓:๑ แต่ยังดีไม่พอที่จะคว้าตั๋วได้ไปต่อ…@@

สุดสลดกับโศกนาฏกรรมยามฟ้าสาง..ไฟไหม้โซนสัตว์เลี้ยง ตลาดนัดสวนจตุจักร ย่างสดสารพัดสัตว์เลี้ยงตายทั้งเป็นนับพันตัว…เหตุเกิดหลังคำสั่งย้ายข้าราชการระดับสูงใน กทม.มาดูแลงานตลาดนัด @@

แซ่บอีหลี เด็ดสะระตี่..ตระกูล วินิจนัยภาค อดีตอัยการสูงสุด ลูกผู้ชายตัวจริงโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ความว่า “ขอยืนยันด้วยเกียรติของลูกผู้ชายว่า ในฐานะเป็น อสส. ในขณะนั้น ซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบคดีอาญานอกราชอาณาจักรตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 20 ไม่เคยมีใครสั่ง ข่มขู่ โน้มน้าว ชักจูง ให้ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการสอบสวนครับ”… เจอดอกนี้เข้าไป “เปรตมนุษย์” ไอ้ตัวที่ถนัดแหกปากเห่าหอนป้ายขี้ใส่คนอื่น เพียงแค่”กูและลูกหลานกูรอด” คงครางเอ๋งเอ๋ง น้ำลายหยดติ๋ง @@

ข่าวดีค่ายบีอีเอ็ม ผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน…ที่ประชุม ครม.เปิดไฟเขียวขยับราคาจากเดิมได้ ๑-๒ บาท จาก ๑๗-๔๓ บาท เป็น ๑๗-๔๕ บาท ตั้งแต่วันที่ ๓ ก.ค.ต่อเนื่องไป ๒๔ เดือน…หลังจากนั้นค่อยมาว่ากันใหม่ @@

นักเล่นเต็ง-โต๊ดเตรียมตัว เตรียมตังค์แทงหวย ๓ ตัวรัฐบาล โดยสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล สนนราคาใบละ ๒๐ บาท ออกรางวัลทุกวันที่ ๑ และ ๑๖ ของเดือนเหมือนล็อตเตอรี่…รัฐบาลไฟเขียวเรียบร้อย กะว่าจะมีนักเสี่ยงโชคเป็นลูกค้าไม่น้อยกว่า ๔๐ ล้านใบต่องวด คิดเป็นรายได้เข้ากองสลากฯ งวดละ ๘๐๐ ล้านบาท เดือนละ ๑,๖๐๐ ล้านบาท…ปีละ ๑๙,๒๐๐ ล้านบาท @@

ปิดท้ายสวนข่าววันนี้…คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ๑๗ คน-คณะกรรมการกำกับสำนักงานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ๑๐ คน-คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ อีก ๑๔ คน จะรับผิดชอบยังไง-จัดการยังไง กับข้อมูลส่วนบุคคล ผู้สมัคร ส.ว.กว่า ๒ หมื่นรายชื่อที่รั่วไหลออกไป…หรือว่าคณะกรรมการฯทั้งหลายรับเฉพาะค่าตอบแทนเท่านั้น !!!@@

ฮูก ตาตี่