สวนข่าวประจำวันพฤหัสบดีที่ ๒๓ ม.ค.๒๕๖๘ แรม ๑๐ ค่ำ เดือนยี่ ปีมะโรง

สวนข่าวประจำวันพฤหัสบดีที่ ๒๓ ม.ค.๒๕๖๘ แรม ๑๐ ค่ำ เดือนยี่ ปีมะโรง…เปิดปฐมบทใหม่ของสังคมไทย…สังคมแห่งความเท่าเทียมกันบนความหลากหลาย ไม่มีหญิง-ไม่มีชาย..ไม่มีผัว-ไม่มีเมีย มีเพียง “คู่สมรส” @@
ฝุ่นพิษบั่นทอนคุณภาพชีวิตคนไทย-บ่อนทำลายความมั่นคงระบบเศรษฐกิจ รัฐบาลโดนชาวบ้านก่นด่าประณามสาดเสียเทเสีย แถมโดนฝ่ายค้านขึงพืดขยี้กลางสภา ทำเอา นายกฯแพทองธาร ที่อยู่ระหว่างสูดอากาศสะอาดเมืองดาวอส นั่งไม่ติด สั่งด่วนนัดประชุม ครม.ข้ามชาติ วาระพิเศษ ว่าด้วยการจัดการฝุ่นพิษเป็นการเฉพาะ….ประชุมแล้วไง-ฝุ่นพิษมันแพ้ภัยน้ำลาย อันตรธานหายไปในพริบตาหรือไง ???
ควันหลงฝุ่นพิษ จุดชนวน”สงครามน้ำลาย” พรรคร่วมรัฐบาล ระหว่าง เอกนัฏ พร้อมพันธ์ุ รมว.อุตสาหกรรม-เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ กับ ธีระชัย แสนแก้ว สส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย โดย”เดอะขิง” เอกนัฏ ถึงกับโพล่งกลางสภา….มีเจ้ามือตั้งรางวัลค่าหัว รมว.อุตสาหกรรมไว้สูงถึง ๓๐๐ ล้านบาท ว้าวว้าวว้าว @@

อนิจจาโครงการ”คุณสู้-เราช่วย” ระหว่าง ๑๒ ธ.ค.๖๗-๒๘ ก.พ.๖๘ ตั้งเป้าสวยหรูหวังแก้หนี้ ๙ แสนล้านบาท ช่วยชุบชีวิตลูกหนี้ ๒.๑ ล้านบัญชี จำนวน ๑.๙ ล้านราย ถึงตอนนี้ ผ่านไปแล้ว ๔๓ วัน จากระยะเวลาโครงการทั้งหมด ๗๙ วัน แต่ทุกอย่างเงียบเชียบน่าใจหาย แบงก์ชาติ ในฐานะ”เจ้าภาพหลัก” ไม่เคยรายงานความก้าวหน้าใดๆ…๔๓ วันผ่านไป ลูกหนี้ตามเป้าหมาย ๑.๙ ล้านราย ลงทะเบียนไปแล้วกี่ราย-ผ่านเกณฑ์กี่ราย-วงเงินเท่าไหร่-สาเหตุหลักที่ลูกหนี้ตกเกณฑ์คืออะไร-เมื่อครบระยะเวลาโครงการ ๗๙ วัน จะบรรลุเป้าหมายเต็ม ๑๐๐% หรือแค่ ๑๐%…..เห็นที รมว.คลังต้องออกแรงกระทุ้งซะแล้ว-มิเช่นนั้นโครงการนี้จะกลายพันธ์ุจากผลงาน”โบว์แดง” เป็น “โบว์ดำ”อับอายขายขี้หน้ารัฐบาล @@

ปิดท้ายสวนข่าววันนี้ ฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด พยากรณ์แนวโน้มราคาทองคำไทย อาจได้สถิติสูงสุดใหม่ที่บาทละ ๕ หมื่นบาท ขอย้ำบาทละ ๕ หมื่นบาท หากค่าเงินบาทอ่อนปวกเปียกแตะ ๓๕ บาทต่อดอลลาร์สรอ.@@

ฮูก ตาตี่

สวนข่าวประจำวันพุธที่ ๒๒ ม.ค.๒๕๖๘ แรม ๙ ค่ำ เดือนยี่ ปีมะโรง

พรุ่งนี้แล้วซินะ กฏหมายสมรสเท่าเทียม มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการทั่วเมืองไทย 878 อำเภอ ครอบคลุม 76 จังหวัดทั่วประเทศ และ 50 เขต ในกรุงเทพมหานคร พร้อมให้บริการจดทะเบียนคู่สมรสเต็มที่ ชอบที่ไหน-สะดวกที่ใดไปใช้บริการกันได้ตามอัธยาศรัย @@

พูดแล้วอย่าพลิกลิ้นปลิ้นปล้อนนะท่านผู้ว่าฯชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ สั่งห้ามรถ ๖ ล้อ ที่อยู่นอก”บัญชีเขียว-Green List” เข้าพื้นที่ กทม.ชั้นใน หรือ”วงแหวนรัชดาภิเษก” ระหว่าง ๒๓-๒๔ ม.ค.เพื่อแก้ปัญหาฝุ่นควันพิษท่วมเมืองหลวง ฝ่าฝืนมีโทษหนักทั้งปรับและจำคุก…นี่หมายความว่าพรุ่งนี้-มะรืนนี้ จะไม่เห็นรถ ๖ ล้อแถวลาดพร้าว-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ-สะพานควาย-พระราม ๙-ห้วยขวาง-สุทธิสาร-สีลม-สาทร-พระราม ๔-สุขุมวิท-คลองเตย-ราชดำเนิน-ราชเทวี-พญาไท-ราชประสงค์….@@

ปัญหาฝุ่นพิษ ไม่ใช่เรื่องแปลก ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นเรื่องใหญ่ เป็นมหันตภัยร้ายแรงด้านสุขภาพ ที่เกิดขึ้นซ้ำซากหมุนเวียนเป็นวงจรอุบาทว์ปีแล้วปีเล่า โดยที่คณะรัฐมนตรี-ผู้ว่าราชการจังหวัด-นายอำเภอ-อบจ.-เทศบาล-อบต. ไม่ใส่ใจแสวงหาทางแก้อย่างจริงจัง…แทนการแก้ไขแบบลูบหน้าปะจมูก-ขายผ้าเอาหน้ารอด @@

พินิจพิจารณาปฏิกิริยาคณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบัน หายใจเข้าเป็นพนันออนไลน์-หายใจออกเป็นคาสิโน ความคิดและสติปัญญาหมกมุ่นอยู่กับเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ไม่ลืมหูลืมตา ไม่เหลือช่องว่างมาใส่ใจกับฝุ่นควันพิษที่กำลังคุกคามคุณภาพชีวิตชาวบ้านเข้าขั้นวิกฤต…@@

“แตงโมเฮี้ยน!” พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)สั่งรื้อคดีการตายของ”แตงโม” ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ ขึ้นสอบใหม่ หลังพบพิรุธหลายประเด็น…ลุ้นระทึกใครคือฆาตกร ฆาตกรรมแตงโม ???@@

ปิดท้ายสวนข่าววันนี้ สภาทนายความฯตั้ง วีรพัฒน์ ปริยวงศ์ ทำหน้าที่หัวหน้าคณะทำงานช่วยเหลือทางคดี เหยื่อดิไอคอนในทางแพ่งและอาญา สู้กับบรรดาบอสทั้งหลาย…@@

ฮูก ตาตี่

สวนข่าวประจำวันอังคารที่ ๒๑ ม.ค. ๒๕๖๘ แรม ๘ ค่ำ เดือนยี่ ปีมะโรง

นายกฯน้อยข้ามน้ำข้ามทะเลไปตะลุยหิมะเมืองดาวอส สวิตเซอร์แลนด์ อีกหลายวันกว่าจะกลับ อยู่ทางนี้รองนรม.และรมว.กลาโหม ภูมิธรรม เวชยชัย เลื่อนชั้นทำหน้าที่รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีไปพลางก่อน…@@

นายกฯลูก ไม่อยู่ เปิดทางสะดวก คุณพ่อ ส.ท.ร.คึกคะนองกับการปล่อยแสงแผลงฤทธิ์เป็นที่สนุกสนาน ไม่มีใครหน้าไหนกล้าขัดกล้าขวาง นอกจากเชียร์กันสุดลิ่ม…ดีครับท่าน @@

กทม.กลายเป็นดินแดนใต้อาณานิคม”ฝุ่นควันพิษ”ไปเรียบร้อย คณะผู้บริหาร กทม.กระเสือกกระสนดิ้นรนสู้วิกฤตฝุ่นพิษตามมีตามเกิด แบบ”ขายผ้าเอาหน้ารอด” ปราศจากแผนเผชิญเหตุ-แผนบรรเทาผลกระทบ-แผนเยียวยา-แผนแก้ปัญหาเบ็ดเสร็จ….รัฐบาลกลางทำตัวเหมือนอยู่ดาวคนละดวง-อนิจังอนิจาประเทศไทย @@

ทรัมป์ พูดจริง-ทำจริง “Make America Great Again” คืนความยิ่งใหญ่ให้อเมริกาอีกครั้ง ทำพิธีสาบานตัวรับตำแหน่งปธน.อย่างเป็นทางการปุ๊บ ลงนามคำสั่งบริหารปั๊บ ๒๐ ฉบับรวด สาระสำคัญมุ่ง “รัดเข็มขัด-ตัดรายจ่าย-เพิ่มรายได้” ไม่ว่าจะเป็นถอนตัวจากองค์การอนามัยโลก-ลดขนาดบุคลากรภาครัฐ-ตัดการให้ความช่วยเหลือ….ไม่ทำตัวเป็น”เตี้ยอุ้มค่อม” @@

ปิดท้ายสวนข่าววันนี้ โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย เปิดตัวเลขอสังหาฯชวนช็อค มียอดค้างสต็อคสะสมกว่า ๒.๓ แสนยูนิต คิดเป็นมูลค่า ๑.๓๔ ล้านล้านบาท เทียบเท่า ๗.๔% ของจีดีพี ส่วนใหญ่เป็นคอนโดฯ-ทาวน์เฮ้าส์ ราคา ๓-๕ ล้านบาท…อย่าแปลกใจทำไมเศรษฐกิจไทยป่วยกล้ามเนื้ออ่อนแรงเรื้อรัง @@

ฮูก ตาตี่

สวนข่าวประจำวันจันทร์ที่ ๒๐ ม.ค. ๒๕๖๘ แรม ๗ ค่ำ เดือนยี่ ปีมะโรง

อวสานปิดฉากอำนาจโจ ไบเดน แห่งพรรคเดโมแครท เปิดปฐมบทเป็นปฐมฤกษ์บนบัลลังก์อำนาจรอบ ๒ ของโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งพรรครีพับริกัน ตามครรลองประชาธิปไตยแบบอเมริกัน…”วินเนอร์เทคออล”-ผู้ชนะกินรวบ @@

การเมืองอเมริกันยุคทรัมป์ สมัยที่ ๒ ที่ชูนโยบาย”Make America Great Again” แต่เนื้อแท้แล้วกำลังพาอเมริกา “กลับหลังหัน” ทิ้ง”ความศิวิไลซ์” กลับไปดื่มด่ำ “ความเป็นอนารยชน” …บ้าอำนาจ-บูชาอำนาจ เหนือบทบัญญัติกฏหมาย @@

ข้อยืนยันยุคสมัย”อำนาจ เป็นธรรม”ได้เริ่มต้นขึ้นแล้วที่อเมริกา พิสูจน์ชัดจากคำพิพากษาศาลนครแมนฮัตตัน เมื่อวันที่ ๑๐ ม.ค.ที่มีการพิจารณาคดีความอาญา โดยนัลด์ ทรัมป์ รวม ๓๔ กระทง และถูกตัดสินว่ากระทำความผิดทุกกระทง ซึ่งควรต้องถูกลงโทษสถานหนัก แต่กลับได้รับยกเว้น “ไม่ต้องรับโทษ”ทั้งที่กระทำความผิด ด้วยเหตุผล….”เพราะทรัมป์กำลังจะเป็นประธานาธิบดี”-เอวังความยุติธรรม @@

โลกที่มีทรัมป์ เป็นผู้นำสหรัฐอเมริกา โคจรเข้าสู่ห้วงเวลา”กระเบื้องเฟื่องฟูลอย น้ำเต้าน้อยถอยจม”…จู่ๆ ๒ คนผัวเมียก็สนุกกับการปล่อยเหรียญคริปโตสกุล”ทรัมป์”และ”เมลาเนีย”ลงสู่ตลาดคริปโต ให้นักเก็งกำไรปั่นกัน…กูคือกฏหมาย-กูคือความถูกต้อง-กูทำอะไรก็ได้ @@

ยิ่งพูดยิ่งดุ..ยิ่งปราศรัยยิ่งเดือด…อดีตนช.ทักษิณ ชินวัตร ในบทบาทผู้ช่วยหาเสียง เดินสายหาเสียงช่วยผู้สมัคร อบจ.อีสาน ออกอาการหงุดหงิดกับคำว่าโกง ถึงขั้นสบถ “โกงพ่อมึงสิ” สลับกับการปล่อย “ควาย”ออกจากปาก แถมพาดพิงไปถึง “ลุง” แต่”ลุง”ไม่ให้ราคา…ไม่ตอบโต้ @@

“ลุงป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ยกโขยงพลพรรคเช็คอินซีแซนด์ซันหัวหินรีสอร์ท ตั้งวงสัมนากำหนดอนาคตพรรค ประกาศ “เดินไปข้างหน้าอย่างสร้างสรรค์ และมั่นคง”…@@

อนิจจา”ศิลปินลวงโลก” หลงผิดคิดทิ้งบอมบ์กำจัดเสี้ยนหนาม สุดท้ายกลายเป็น “อัตวินิบาตกรรม” ทำลายล้างชื่อเสียง-เกียรติยศหมดสิ้น…ไม่เหลืออะไรเลย…@@

ความน่าเชื่อถือล้มละลายหายเกลี้ยงแล้ว สำหรับศิลปินเคยมีภาพลักษณ์ดูดีคนนี้ เพราะฉะนั้นกรณีตีปลาหน้าไซ ตัวเองจะเป็นเหยื่อถูกยัดคดี ๑๑๒ เอาเข้าจริง อาจเป็นอีกหนึ่งประเด็น “โกหกหน้าไมค์ไฟส่องหน้า” เมื่อปรากฏหลักฐานข้อความจาบจ้วงสถาบันมันชัดเจนแจ่มแจ๋ว….ปลายทางเรื่องนี้อาจจบลงที่เรือนจำ @@

ปิดท้ายสวนข่าววันนี้ ชํานาญวิทย์ เตรัตน์ รองปลัดมหาดไทย ทำหน้าที่ตามหน้าที่ลงนามคืนที่ดินอัลไพน์ กลับสู่สถานะ”ที่ธรณีสงฆ์”ดังเดิม…ต่อไปถึงคิวลุ้น ส่งคืนที่ดินเขากระโดง กลับสู่สถานะ”กรรมสิทธิที่้ดินการรถไฟแห่งประเทศไทย”ตามเดิม @@

ฮูก ตาตี่

สวนข่าวประจำวันศุกร์ที่ ๑๗ ม.ค. ๒๕๖๘ แรม ๔ ค่ำ เดือนยี่ ปีมะโรง

…กดปุ่มเปิดแล้ว โครงการ”บ้านเพื่อ(คน)ไทย” อีกหนึ่งผลงานรัฐบาลเพื่อไทย โดยพรรคเพื่อไทย..พรรคร่วมรัฐบาลไม่เกี่ยว @@

โครงการ”บ้านเพื่อ(คน)ไทย” ถูกออกแบบมาเพื่อหวังเติมแต้มประชานิยมพรรคเพื่อไทยโดยเฉพาะ พิสูจน์ได้จากหน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการล้วนอยู่ภายใต้การกำกับสั่งการของ รมต.สังกัดเพื่อไทยเท่านั้น
๑).หน่วยงานรับผิดชอบพัฒนาโครงการ คือ “เอสอาร์ทีเอ” บริษัทเกิดใหม่ในชายคาการรถไฟแห่งประเทศไทย ภายใต้บงการ รมว.คมนาคม สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ
๒).หน่วยงานสนับสนุนสินเชื่อ คือธนาคารอาคารสงเคราะห์ ภายใต้บงการ รมว.คลัง พิชัย ชุณหวชิร….ไม่มีกระเด็นกระดอนให้พรรคร่วมรัฐบาลได้มีเอี่ยว @@

ความจริงของโครงการ”บ้านเพื่อ(คน)ไทย” ที่ต้องเน้นย้ำให้รับรู้กันเป็นพิเศษคือทุกคนที่เข้าถึงโครงการนี้ มีเพียงแค่ “สิทธิการเช่า” แต่ “ไม่มีกรรมสิทธิถือครอง” ไม่มีโฉนด เมื่อครบสัญญาเช่า ทุกอย่างกลับคืนสู่สถานะเดิม คือทรัพย์สินของการรถไฟแห่งประเทศไทย…คนไทยไม่มีกรรมสิทธิครอบครองบ้านแม้แต่ตารางนิ้วเดียว…@@

ลีลาการบริหารจัดการโครงการ”บ้านเพื่อ(คน)ไทย” โดยพรรคเพื่อไทย เข้าข่ายย่ำยีบีฑาโครงสร้างหน้าที่และอำนาจการบริหารราชการแผ่นดินอย่างร้ายกาจ-ไร้มารยาท ทั้งที่พันธกิจว่าด้วยการจัดการที่อยู่อาศัย เป็นส่วนหนึ่งของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ที่มี 2 หน่วยงานในสังกัดคือ การเคหะแห่งชาติ และสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) รับผิดชอบโดยตรง แต่บังเอิญเจ้ากระทรวง พม.ชื่อวราวุธ ศิลปอาชา เป็นหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ไม่ใช่คนในชายคาเพื่อไทย…@@

พฤติกรรมการใช้อำนาจบริหารราชการแผ่นดิน ที่บิดเบี้ยวไปจากโครงสร้างการบริหารราชการตามเขตหน้าที่และอำนาจของส่วนราชการ เพียงเพื่อหวังกอบโกยประโยชน์ทางการเมือง เป็นสิ่งที่ คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ(ก.พ.ร.) ต้องออกมาท้วงติง…@@

พลิกตรวจรายชื่อก.พ.ร.แล้ว มี รองนรม.และรมว.คมนาคม สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นประธาน-ชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกฯ เป็นรองประธาน ก็ได้แต่ทำใจ ตั้งจิตอธิษฐานขอให้ ก.พ.ร.บางท่านอย่าง ธงทอง จันทรางศุ-วรากรณ์ สามโกเศศ-ปกรณ์ นิลประพันธ์ ส่งเสียงกระแอมกระไอออกมาบ้าง…@@

ปิดท้ายสวนข่าววันนี้…จับตายอดหนี้ครัวเรือนเคยบวมมาแล้ว ด้วยโครงการบ้านเอื้ออาทร สมัยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร-บวมต่อด้วยโครงการรถคันแรก สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์…และกำลังจะบวมยกกำลัง ๓ ด้วยโครงการบ้านเพื่อ(คน)ไทย สมัยรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร

ฮูก ตาตี่

สวนข่าวประจำวันพฤหัสบดีที่ ๑๖ ม.ค. ๒๕๖๘ แรม ๓ ค่ำ เดือนยี่ ปีมะโรง

วันนี้ตรงกับวันครู ขอสรรเสริญพระคุณครูด้วยคาถาบูชาครูที่สืบทอดกันมายาวนาน “ปาเจราจริยาโหนติ คุณุตตรานุสาสกา ปาเจราจริยาโหนติ คุณุตตรานุสาสกา” ครูอาจารย์เป็นผู้ทรงคุณอันประเสริฐยิ่ง เป็นผู้พร่าสอนศิลปวิทยากร “ปัญญาวุฒิกเร เต เต ทินโนวาเท นมามิหัง” ข้าพเจ้าขอนอบน้อมเหล่านั้น ผู้ให้โอวาท ผู้ทำให้ปัญญาเจริญ ข้าพเจ้าขอกราบไหว้ครู อาจารย์เหล่านั้น ด้วยความเคารพ…@@

เริ่มแล้ววันนี้ ถึง ๒๘ ก.พ.นี้ โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภูมิปัญญารัฐบาลเพื่อไทย Easy e-receipt ให้สิทธิชาวบ้านใช้ใบเสร็จอีเล็คทรอนิกส์เท่านั้นหักลดหย่อนภาษีในวงเงิน ๕ หมื่นบาท ภายใต้เงื่อนไข ๒ หมื่นใน ๕ หมื่น ต้องอุดหนุนสินค้าโอทอป สินค้าชุมชน ที่ผู้ขายอยู่ในระบบภาษีอีเล็คทรอนิกส์…งานนี้บรรดา”ร้านสะดวกลื้อ-สบายกระเป๋าอั้วเจ้าสัว” จัดสินค้าโอทอป-สินค้าชุมชน เสริมเติมชั้นวาง ปรับตัวพร้อมรับทรัพย์เต็มวงเงิน ๕ หมื่นบาทไว้เรียบร้อย…พ้นวันที่ ๒๘ ค่อยอัปเปหิออกไป @@

ไปแล้ว-กลับแล้ว…นายกฯแพทองธาร ชินวัตร กับโปรแกรมทัวร์จังหวัดชายแดนใต้ แบบ”สายฟ้าแล่บ” ภายใต้มาตรการ รปภ.ขั้นสูงสุด หวุดหวิดเสมอด้วยบุคคลสำคัญอันเป็นที่รักยิ่ง…@@

การพาตัวเองลงพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ของ นายกฯแพทองธาร แม้จะเป็นไปในลักษณะ”ปุ๊ปปั๊บ” แถมยังมีความหวาดระแวงอย่างยิ่ง เพื่อความปลอดภัยสูงสุด ขนาดอาหารกลางวัน เมนูเลิศรส จากโรงแรมอิมพีเรียลนราธิวาส ที่จังหวัดนราธิวาสจัดเตรียมไว้รับรอง มีทั้งน้ำพริกตะไคร้-ผัดฉ่าทะเล-ปลากะพงราดพริก-แกงส้มปลากะพงยอดมะพร้าวอ่อน-แกงบวดสามกษัตริย์ ยังสงวนสิทธิ”ไม่แตะต้อง”เลย ซ้ำยังยกเลิกโปรแกรมเดินทางต่อไปที่ศาลากลางจังหวัดปัตตานี เพื่อรับเรื่องร้องทุกข์จากสมาคมประมงจังหวัดปัตตานีอย่างกระทันหัน โดยอ้าง”อากาศไม่เป็นใจ” แต่กับกลุ่มชาวบ้านที่ได้เจอนายกฯตัวเป็นๆ ก็ชื่นใจนะ…@@

ว่าไปแล้วกำหนดการลงพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ของนายกฯแพทองธาร มีการปรับเปลี่ยนเกือบตลอดเวลา ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยขั้นสูงสุด และปัจจัยชี้ขาดที่ตัดสินใจ”ตัดปัตตานี” ออกจากโปรแกรม น่าจะมาจาก”ใบปลิวลึกลับ”ที่มีรูปนายกฯโดดเด่น พร้อมกับข้อความชวนพิศวง สะพัดโดยรอบโรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ…@@

อึมครึมงึมงำอยู่หลายวัน กรณีความสับสนเรื่องชาดา ไทยเศรษฐ์ ลงนามคำสั่งเพิกถอนที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ กลับคืนเป็นที่ ธรณีสงฆ์ ก่อนพ้นตำแหน่งจริงหรือไม่…ล่าสุด รองนรม.และ มท.๑ อนุทิน​ ชาญวีรกูล​ ตอบชัดถ้อยชัดคำ”เซ็นแล้ว” จากนี้ไปเผือกร้อนอยู่ในมือ ชำนาญวิทย์ เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ต้องดำเนินการต่อไป เพื่อให้มีผลตามกฏหมาย…@@

ปิดท้ายสวนข่าววันนี้ ขอชื่นชมคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ที่มีมติ ให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) ตัดการจ่ายไฟข้ามแดนไปหล่อเลี้ยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์-พนันออนไลน์ ในประเทศเพื่อนบ้าน ฐานเข้าข่าย”บ่อนทำลายประเทศ” และทุบราคาไฟฟ้าลง ๑๗ สตางค์ต่อหน่วย จาก ๔.๑๕ บาท มาอยู่ที่ ๓.๙๘ บาทต่อหน่วย…รอบหน้าหวังว่าจะสั่งทุบหม้อข้าว”รีดไขมันส่วนเกิน” กฟภ.และกฟน.โดยปรับลดมาเหลือแค่ ๓.๕๐ บาท…@@

ฮูก ตาตี่

ประจำวันพุธที่ ๑๕ ม.ค. ๒๕๖๘ แรม ๒ ค่ำ เดือนยี่ ปีมะโรง

สส.ฝ่ายรัฐบาล-ฝ่ายค้าน เห็นด้วยกันโหวตหนุนผ่านร่างกฏหมายสุราชุมชน ด้วยมติเอกฉันท์ ๔๑๕ เสียง…ขนหน้าแข้งเจ้าสัวสุราน่าจะร่วงหายหลายกระจุก @@

นายกฯแพทองธาร ถือฤกษ์วันครู ๑๖ ม.ค.ตะลุย ๓ จังหวัดชายแดนใต้ โดยเดินทางจากจาก บน.๖ ด้วยเครื่องบินโดยสาร ไปลงที่สนามบินนราธิวาส แล้วขึ้นเฮลิคอปเตอร์ กองทัพบก ไปที่สนาม ฮ.สนามกีฬา อบจ.นราธิวาส ขึ้นรถเดินทางไปที่มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ จากนราธิวาส เดินทางต่อไปที่ยะลา ด้วย ฮ.ไปลงที่ สนาม ฮ.ค่ายสิรินธร นั่งรถต่อไปที่โรงเรียนธรรมวิทยา จ.ยะลา แล้วกลับไปขึ้น ฮ.ที่ค่ายสิรินธร ไปที่ สนาม ฮ.สนามกีฬา อบจ.ปัตตานี แล้วนั่งรถต่อไปศาลากลางจังหวัดปัตตานี แล้วกลับไปขึ้น ฮ.ไปต่อเครื่องที่สนามบินนราธิวาส กลับ บน.๖…@@

ข้อน่าสังเกตการเดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ของนายกฯแพทองธาร มีการเฝ้าระวังความปลอดภัยขั้นสูงสุดเดินทางไป-กลับ ภายในวันเดียว โดยเน้นเดินทางด้วยอากาศยานเป็นหลัก เดินทางด้วยรถยนต์เพียงช่วงสั้นๆ และ พบปะประชาชนในพื้นที่ปิด แค่ ๓ แห่งคือมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์-โรงเรียนธรรมวิทยา-ศาลากลางจังหวัดปัตตานี ต่างกันลิบลับกับอดีตนายกฯเศรษฐา ทวีสิน ที่มีการพักค้าง และพบปะประชาชนในพื้นที่เปิด…@@

เพื่อนนักข่าวที่เกาะติดสถานการณ์อยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงในการบริหารจัดการสถานการณ์ภายใต้รัฐบาลชุดนี้ ที่หันไปให้ความสำคัญกับบทบาทตำรวจมากขึ้น และลดบทบาททหารลงไป ราวกับมีความหวาดระแวงทหาร โดยสังเกตเห็นได้จากบุคลากรตำแหน่งสำคัญใน ศอ.บต.ตอนนี้ยึดครองโดย ตำรวจ และบทบาท ศอ.บต.ก็ถูกชูให้โดดเด่นกลบรัศมีกอรมน.ภาค ๔ ที่มี แม่ทัพภาค ๔ เป็นหัวขบวน…ภายใต้บริบทแบบนี้ชาวบ้านในพื้นที่ใจคอไม่สู้ดี @@

“ซิงซิงเอฟเฟคท์”ที่ก่อปฏิกิริยายกเลิกการจองห้องพักของทัวร์จีนระลอกใหญ่ แถมเศรษฐกิจปากท้องเมืองจีนอยู่ในอาการสลึมสลือ แต่ผู้ว่าททท.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ กล้าบอกนักท่องเที่ยวจีนจะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในช่วงตรุษจีนสูงถึง ๒.๘๗ แสนคน เพิ่มขึ้นถึง ๗% และมีการใช้จ่ายสูงถึง ๘,๘๐๐ ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง ๙%….อยากรู้จังจะมีใครเชื่อซักกี่คน @@

ปิดท้ายสวนข่าววันนี้ โรงกษาปณ์ฝรั่งเศส ผู้รับผิดชอบจัดทำเหรียญกีฬาโอลิมปิค ปารีสเกมส์ 2024 งานเข้าอย่างจัง เมื่อนักกีฬาที่คว้าเหรียญรางวัล ขอเปลี่ยนกันอุตลุด ด้วยเหตุคุณภาพเหรียญห่วย”ขี้เรื้อน”ทั้งลอก-ล่อน-สนิมเขรอะ…อับอายขายขี้หน้าไปทั้งโลก @@

ฮูก ตาตี่

สวนข่าวประจำวันอังคารที่ ๑๔ ม.ค. ๒๕๖๘ แรม ๑ ค่ำ เดือนยี่ ปีมะโรง

พลเมืองไทยพูดกันสนั่นเมืองเรื่องจัดระเบียบพนันออนไลน์จาก”ใต้ดิน” ขึ้น “บนดิน” หวังเล็งผลเลิศโกยรายได้ภาษีเข้ารัฐเป็นแสนล้าน-ล้านล้าน ตามเกมขายฝันอดีตนักโทษชาย…ไม่สนใจสถาบันครอบครัวจะฉิบหายวายวอดแค่ไหน ไม่สนใจความมั่นคงทางสังคมของชาติจะพินาศบรรลัยเพียงใด @@

หายนะอันเนื่องมาจากพิษโลภ-หลงในเงินตรา มีตัวอย่างให้เห็นมากมายเกลื่อนกลาดดาษดื่น..หลายครอบครัวพี่น้องพิฆาตเข่นฆ่ากันเอง…หลายครอบครัวบุพการีประหารปลิดชีพลูกในไส้…หลายครอบครัวลูกกระทำปิตุฆาต-มาตุฆาต…ปีศาจ-ซาตานในสิงสู่ในเงินตรามันแสนร้ายกาจยิ่งนัก มีแต่ธรรมะความพอเพียงเท่านั้นที่กำราบฤทธิ์มันได้ชะงัด @@
ทักษิณ ชินวัตร พ่นไว้ในงาน“Dinner Talk Chat with Tony: Bull Rally of Thai Capital Market”วันก่อน เรียกร้องให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ และ ก.ล.ต.ต้องบันดาล “Trust & Confidence” ให้เกิดกับนักลงทุนให้ได้…อยากรู้จัง”เทียบเชิญ”ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่เวียนไปถึงบริษัทจดทะเบียน ชวนเข้าร่วมกิจกรรมฉลอง ๕๐ ปี ด้วยการเป็นสปอนเซอร์”กินฟรี-ตีกอล์ฟฟรี”ตลอดวันที่ ๙ ก.พ.๒๕๖๘ ที่สนามกอล์ฟสุดหรู”โรบินส์วู้ด” ย่านลำลูกกา คลอง ๑๑ จ.ปทุมธานี จะเข้าข่ายสร้าง”ความไว้วางใจ-ความเชื่อมั่น” ได้หรือไม่ ???@@

ซอกแซกแคะคุ้ยข้อมูลสนามกอล์ฟ “โรบินส์วู้ด” ต้องร้อง”ไอ้หยา-ไอ้หยา-ไอ้หยา” เมื่อเห็นชื่อ “เสี่ยเพ้ง”พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล และ”เสี่ยเหยียนปิน”ชาญชัย รวยรุ่งเรือง เป็น”เถ้าแก่ใหญ่” ที่สำคัญทั้ง ๒ คน คือ”กากี่นั้ง-คนกันเอง”ของ ทักษิณ ชินวัตร….งานนี้รมว.คลัง-ปปช.จะกล้าแตะต้องตรวจสอบความโปร่งใสอ่ะเปล่าล่ะ ???@@

ปิดท้ายสวนข่าววันนี้..ดัชนีตลาดหุ้นไทยไม่สนน้ำลายทักษิณ ไหลลงต่อเนื่องอีก ๑๔.๐๙ จุด มาปิดที่ ๑,๓๔๐.๒๕ จุด เบ็ดเสร็จเปิดศักราชใหม่มา ๑๔ วัน ดัชนีราคาหุ้นละลายไปแล้ว ๓๙.๖๐ จุด คิดเป็น ๒.๘๗% เทียบเท่าความมั่งคั่งที่สูญหายไปแล้วกว่า ๔.๘ แสนล้านบาท….แล้วจะเอาแรงที่ไหนไปปั่นจีดีพีให้ได้ ๕% ตามลมปากทักษิณ…@@

ฮูก ตาตี่

  • adminadmin
  • December 31, 2024
ส่องชีพจรปากท้องไทย ๒๕๖๗ โคตรเพี้ยน !!

หนี้ธุรกิจท่วมกว่า ๑๕๕% ของจีดีพี แต่”ทำใบ้”
๓๖๖ วันของศักราช ๒๕๖๗ ปีมะโรง งูใหญ่ ที่กำลังผ่านพ้นไป บรรดาสำนักเศรษฐกิจทั้งระดับชาติ และระดับโลก ล้วนทำนายทายทักชีพจรปากท้องไทย เพี้ยน-เพี้ยน-เพี้ยน ไปจากความจริงโดยพร้อมเพรียงกัน

ธนาคารแห่งประเทศไทย ที่มีท่านผู้ว่าการที่หยิ่งทะนงในเกียรติยศศักดิ์ศรีอย่างยิ่ง พยากรณ์ชะตากรรมเศรษฐกิจไทยปี ๒๕๖๗ เพี้ยนรุนแรงกว่าใครๆ โดยคาดการณ์จีดีพีไทยปี ๒๕๖๗ จะอ้วนท้วนสมบูรณ์ขึ้นจากปี ๒๕๖๖ สูงลิบลิ่วถึง ๔.๔%….มิน่าถึงได้มั่นอกมั่นใจยืนดอกเบี้ยนโยบายไว้แข็งทื่อ
ทำนองเดียวกันกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ที่เคยบีบคั้นกดดันรัฐบาลไทยสารพัดในช่วงที่เราเผชิญวิบากกรรมวิกฤตเศรษฐกิจปี ๒๕๔๐ ก็เพี้ยนในระดับเดียวกับธนาคารแห่งประเทศไทย ด้วยการคาดการณ์อัตราการเติบโตจีดีพีไทยปี ๒๕๖๗ ไว้ที่ ๔.๔%
ธนาคารโลก..ฝาแฝดไอเอ็มเอฟ ก็พยากรณ์เพี้ยน แต่ไม่สาหัสเท่าไอเอ็มเอฟ โดยคาดการณ์จีดีพีไทยปี ๒๕๖๗ จะโต ๓.๒% สูสีกับคำพยากรณ์ของธนาคารพัฒนาเอเซีย (เอดีบี) ที่ทำนายทายทักจีดีพีไทยปี ๒๕๖๗ ไว้ที่ ๓%
หันมาโฟกัส”ความเพี้ยน”ของคำพยากรณ์องค์กรเศรษฐกิจภาครัฐ นอกเหนือจากแบงก์ชาติผู้ทรนงกันบ้าง…
สภาพัฒน์ฯ และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง พยากรณ์จีดีพีปี ๒๕๖๗ เอาไว้เท่ากันที่ ๓.๒%
สำหรับองค์กรเศรษฐกิจภาคเอกชน ก็เพี้ยน-เพี้ยน-เพี้ยนตามๆกัน
ศูนย์วิจัยธนาคารกรุงไทย-ศูนย์วิจัยธนาคารทีทีบี และศูนย์วิจัยธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ทำนายจีดีพีไทยปี ๒๕๖๗ ไว้เท่ากันที่ ๓.๑% ขณะที่ศูนย์วิจัยธนาคารกสิกรไทย และศูนย์วิจัยธนาคารไทยพาณิชย์ คาดการณ์จีดีพีไทยปี ๒๕๖๗ ไว้เท่ากันที่ ๓.๐% ส่วนศูนย์วิจัยธนาคารกรุงศรีอยุธยา คาดการณ์จีดีพีไทยปี ๒๕๖๗ ไว้สวยหรูดูดีถึง ๓.๔%
๓๖๖ วันผ่านไป…ความจริงของจีดีพีไทยปี ๒๕๖๗ เพี้ยนไปจากคำทำนายทุกสำนักเศรษฐกิจที่เคย”ฟันธง”ไว้ก่อนสิ้นปี ๒๕๖๖ อย่างสิ้นเชิง
จีดีพีปี ๒๕๖๗ ที่คาดการณ์อยู่ระหว่าง ๓.๐-๔.๔%
จีดีพีปี ๒๕๖๗ ที่เป็นจริงคือ…โตแค่ ๒.๖% หรือมีค่าความ”เพี้ยน” สูงลิ่วถึงกว่า ๔๐%
เบื้องลึกก้นบึ้งความเพี้ยน….ถามว่าเป็นเหตุสุดวิสัยมั้ย?
คำตอบน่าจะ”ไม่ใช่”
คำตอบน่าจะมาจากความจงใจ”ละเว้น”ไม่จับเอา”หนี้ภาคธุรกิจ”มาเป็นปัจจัยในการวิเคราะห์
บรรดาสำนักเศรษฐศาสตร์ทั้งหลาย เหมือน”เตี๊ยมกัน” ให้โฟกัสอยู่แค่”หนี้สาธารณะ” ๑๒ ล้านล้านบาท กับ”หนี้ครัวเรือน” ๑๖ ล้านล้านบาท” โดยรวมหัวกันไม่ข้องแวะแตะต้อง”หนี้ภาคธุรกิจ” ที่มีขนาดมหึมาเท่ากับ”หนี้สาธารณะ+หนี้ครัวเรือน” คือ ๒๘ ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนสูงลิบลิ่วถึงกว่า ๑๕๕% ของจีดีพี
อนาคตชะตากรรมเศรษฐกิจประเทศไทยปีใหม่ ๒๕๖๘ มีความเสี่ยงสูงยิ่งที่จะเผชิญวิบากกรรมสาหัสสากรรจ์อันเนื่องมาจากหนี้ภาคธุรกิจที่สูงกว่าจีดีพีถึง ๑.๕๕ เท่าตัวนี่แหละ….
ไม่ได้เพี้ยน และไม่ได้ขู่ แต่มันคือสัญญาณอันตรายร้ายแรงของจริง !!!

ศักดิ์ชัย พฤฒิภัค
๓๑ ธ.ค.๒๕๖๗

  • adminadmin
  • December 30, 2024
สวนข่าวประจำวันจันทร์ที่ ๓๐ ธ.ค. ๒๕๖๗ ขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๒ ปีมะโรง

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานปฏิทิน และบัตรอวยพรในโอกาสพิเศษต้อนรับปีใหม่ ๒๕๖๘ ยังความปลื้มปิติแก่ปวงพสกนิกรเป็นล้นพ้น…ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ขอพระองค์ทรงพระเกษมสำราญ @@

เฮือกสุดท้ายอำลาปีมังกรงวดนี้ ดุเดือดเลือดท่วมด้วยโศกนาฏกรรมรัวๆ ทั้งเหตุเครื่องบินโบอิ้ง ๗๓๗-๘๐๐ ของสายการบินเจจูแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ ๗ ซี ๒๒๑๖ ระเบิด คร่าชีวิตผู้โดยสารและลูกเรือ รวม ๑๗๙ ราย-ไฟไหม้โรงแรมแถวบางลำพู ตาย ๓ ราย-แผ่นปูนถล่มทับคนตาย ๕ รายที่สวนอุตสาหกรรม ๓๐๔ แถวปราจีนบุรี…@@

“เจจูเอฟเฟคท์” กรณีอุบัติเหตุเครื่องบินสายการบินเจจู ชนกำแพงกั้นสนามบิน ส่งผลกระทบมหาศาลแสนสาหัส ผู้โดยสารหวาดผวา พากันยกเลิกตั๋วอุตลุดเกือบ ๗ หมื่นที่นั่งเข้าไปแล้ว…ไม่แน่ว่าเทศกาลส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่รอบนี้สายบินนี้มีความโน้มเอียงสูงยิ่งที่ต้อง”จั่วลม”…ไม่มีผู้โดยสารใช้บริการ @@

สืบค้นสถิติการเกิดอุบัติเหตุของเครื่องบินในรอบปี ๒๕๖๘ รวม ๙ ครั้ง พบว่า ๕ ใน ๙ ครั้ง เครื่องบินที่เกิดอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินตระกูล”โบอิ้ง” ขณะที่เป็นเครื่องบินตระกูล”แอร์บัส” แค่ ๑ ครั้ง-เครื่องบินตระกูล “เอ็มบราเออร์” ๑ ครั้ง-เครื่องบินตระกูล”เอทีอาร์” ๑ ครั้ง -เครื่องบินตระกูล”ซูคอย” ๑ ครั้ง…ไม่แปลกที่หุ้นโบอิ้ง จะถูกเททิ้งหลังโศกนาฏกรรมสายการบินเจจู กระทั่งราคาดิ่งลงกว่า ๒๘% ก่อนจะค่อยๆตะเกียกตะกายไต่ระดับขึ้นมา @@

ปิดท้ายสวนข่าวส่งท้ายปีเก่า…พึงตั้งสติ ระมัดระวังความคิดของเราให้จงดีในการท่องโลกออนไลน์ไปบนแพลตฟอร์มยอดฮิตที่กำลังมาแรงตอนนี้ บนนั้นเกลื่อนกลาดไปด้วยข้อมูลเท็จ-ข้อมูลกากๆ ที่ดูเหมือนน่าเชื่อถือ แต่ไม่น่าเชื่อถือ และอย่าได้หลงเชื่อถือเด็ดขาด…ขอให้โชคดีมีสุขโดยทั่วหน้า แล้วกลับมาเจอกันใหม่ ๖ ม.ค.๒๕๖๘ @@

ฮูก ตาตี่