หนี้ธุรกิจท่วมกว่า ๑๕๕% ของจีดีพี แต่”ทำใบ้”
๓๖๖ วันของศักราช ๒๕๖๗ ปีมะโรง งูใหญ่ ที่กำลังผ่านพ้นไป บรรดาสำนักเศรษฐกิจทั้งระดับชาติ และระดับโลก ล้วนทำนายทายทักชีพจรปากท้องไทย เพี้ยน-เพี้ยน-เพี้ยน ไปจากความจริงโดยพร้อมเพรียงกัน

ธนาคารแห่งประเทศไทย ที่มีท่านผู้ว่าการที่หยิ่งทะนงในเกียรติยศศักดิ์ศรีอย่างยิ่ง พยากรณ์ชะตากรรมเศรษฐกิจไทยปี ๒๕๖๗ เพี้ยนรุนแรงกว่าใครๆ โดยคาดการณ์จีดีพีไทยปี ๒๕๖๗ จะอ้วนท้วนสมบูรณ์ขึ้นจากปี ๒๕๖๖ สูงลิบลิ่วถึง ๔.๔%….มิน่าถึงได้มั่นอกมั่นใจยืนดอกเบี้ยนโยบายไว้แข็งทื่อ
ทำนองเดียวกันกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ที่เคยบีบคั้นกดดันรัฐบาลไทยสารพัดในช่วงที่เราเผชิญวิบากกรรมวิกฤตเศรษฐกิจปี ๒๕๔๐ ก็เพี้ยนในระดับเดียวกับธนาคารแห่งประเทศไทย ด้วยการคาดการณ์อัตราการเติบโตจีดีพีไทยปี ๒๕๖๗ ไว้ที่ ๔.๔%
ธนาคารโลก..ฝาแฝดไอเอ็มเอฟ ก็พยากรณ์เพี้ยน แต่ไม่สาหัสเท่าไอเอ็มเอฟ โดยคาดการณ์จีดีพีไทยปี ๒๕๖๗ จะโต ๓.๒% สูสีกับคำพยากรณ์ของธนาคารพัฒนาเอเซีย (เอดีบี) ที่ทำนายทายทักจีดีพีไทยปี ๒๕๖๗ ไว้ที่ ๓%
หันมาโฟกัส”ความเพี้ยน”ของคำพยากรณ์องค์กรเศรษฐกิจภาครัฐ นอกเหนือจากแบงก์ชาติผู้ทรนงกันบ้าง…
สภาพัฒน์ฯ และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง พยากรณ์จีดีพีปี ๒๕๖๗ เอาไว้เท่ากันที่ ๓.๒%
สำหรับองค์กรเศรษฐกิจภาคเอกชน ก็เพี้ยน-เพี้ยน-เพี้ยนตามๆกัน
ศูนย์วิจัยธนาคารกรุงไทย-ศูนย์วิจัยธนาคารทีทีบี และศูนย์วิจัยธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ทำนายจีดีพีไทยปี ๒๕๖๗ ไว้เท่ากันที่ ๓.๑% ขณะที่ศูนย์วิจัยธนาคารกสิกรไทย และศูนย์วิจัยธนาคารไทยพาณิชย์ คาดการณ์จีดีพีไทยปี ๒๕๖๗ ไว้เท่ากันที่ ๓.๐% ส่วนศูนย์วิจัยธนาคารกรุงศรีอยุธยา คาดการณ์จีดีพีไทยปี ๒๕๖๗ ไว้สวยหรูดูดีถึง ๓.๔%
๓๖๖ วันผ่านไป…ความจริงของจีดีพีไทยปี ๒๕๖๗ เพี้ยนไปจากคำทำนายทุกสำนักเศรษฐกิจที่เคย”ฟันธง”ไว้ก่อนสิ้นปี ๒๕๖๖ อย่างสิ้นเชิง
จีดีพีปี ๒๕๖๗ ที่คาดการณ์อยู่ระหว่าง ๓.๐-๔.๔%
จีดีพีปี ๒๕๖๗ ที่เป็นจริงคือ…โตแค่ ๒.๖% หรือมีค่าความ”เพี้ยน” สูงลิ่วถึงกว่า ๔๐%
เบื้องลึกก้นบึ้งความเพี้ยน….ถามว่าเป็นเหตุสุดวิสัยมั้ย?
คำตอบน่าจะ”ไม่ใช่”
คำตอบน่าจะมาจากความจงใจ”ละเว้น”ไม่จับเอา”หนี้ภาคธุรกิจ”มาเป็นปัจจัยในการวิเคราะห์
บรรดาสำนักเศรษฐศาสตร์ทั้งหลาย เหมือน”เตี๊ยมกัน” ให้โฟกัสอยู่แค่”หนี้สาธารณะ” ๑๒ ล้านล้านบาท กับ”หนี้ครัวเรือน” ๑๖ ล้านล้านบาท” โดยรวมหัวกันไม่ข้องแวะแตะต้อง”หนี้ภาคธุรกิจ” ที่มีขนาดมหึมาเท่ากับ”หนี้สาธารณะ+หนี้ครัวเรือน” คือ ๒๘ ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนสูงลิบลิ่วถึงกว่า ๑๕๕% ของจีดีพี
อนาคตชะตากรรมเศรษฐกิจประเทศไทยปีใหม่ ๒๕๖๘ มีความเสี่ยงสูงยิ่งที่จะเผชิญวิบากกรรมสาหัสสากรรจ์อันเนื่องมาจากหนี้ภาคธุรกิจที่สูงกว่าจีดีพีถึง ๑.๕๕ เท่าตัวนี่แหละ….
ไม่ได้เพี้ยน และไม่ได้ขู่ แต่มันคือสัญญาณอันตรายร้ายแรงของจริง !!!

ศักดิ์ชัย พฤฒิภัค
๓๑ ธ.ค.๒๕๖๗