สงครามข่าวอุยกูร์ยังพันตูยืดเยื้อเรื้อรัง หาความชัดเจนจริงแท้ไม่มี ไม่รู้ใครแหกตาใคร แต่ที่แน่นอนคือภาพลักษณ์ดุลยภาพด้านการต่างประเทศของไทยในประชาคมโลกพังยับเยิน…เอียงกระเท่เร่เทกองไปอิงแอบแนบชิดจีนเรียบร้อยแล้ว @@

ที่ประชุม ครม.นัดพิเศษ ขยับจากพรุ่งนี้ เป็นวันนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้นายกฯแพทองธาร ไปทัวร์เยอรมนี เคาะงบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ที่น่าจะเข้าข่าย”ฉุกเฉินกำมะลอ” รวม ๓ โครงการ เป็นวงเงินเฉียด ๒ พันล้านบาท
๑).จัดอีเว้นท์มหาสงกรานต์เวิร์ลวอเตอร์เฟสติวัล ๒๐๒๕ ที่ท้องสนามหลวง จำนวน ๑๕๓ ล้านบาท ในจำนวนนี้มีงบประชาสัมพันธ์ฝังอยู่ ๑๑.๗๗ ล้านบาท ตามคำขอกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
๒).โครงการจัดหาน้ำแข็งแห้ง สำหรับทำฝนเทียม ๒๐๐ ล้านบาท ตามคำขอกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
๓).โครงการเหมาซื้อเรือประมงเก่า ๙๒๓ ลำ วงเงิน ๑.๖๒ พันล้านบาท ตามคำขอกระทรวงเกษตรและสหกรณ์…กรณีนี้สะท้อนอาการ”ชุ่ย”ของกระทรวงท่องเที่ยวฯ-กระทรวงเกษตรฯ ทั้งอีเว้นท์มหาสงกรานต์-นำ้แข็งแห้งทำฝนเทียม-ซื้อเรือประมง มันไม่มีเหตุอันควรมาเบียดบังเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินฯโดยสิ้นเชิง @@

เมืองไทยตอนนี้เหมือนตกหลุมติดหล่มกลเกมการเมือง ระหว่างขั้วแดงกับขั้วน้ำเงิน ที่เชือดเฉือนกันผ่านทุกกลไกของระบบราชการ ครอบคลุมทุกมิติทั้งตุลาการ-นิติบัญญัติ-บริหาร ไม่เว้นแม้กระทั่ง”องค์กรอิสระ” ทิ้งขว้างลอยแพชาวบ้านชาวเมืองให้จมอยู่กับความระกำลำเค็ญแสนสาหัส ต้องตะเกียกตะกายประคองตัวกันไปตามมีตามเกิด..ตามยะถากรรม…ข้าวเปลือก-วัว-ควาย-แพะ-แกะราคาตกต่ำ เกษตรกรทุรนทุรายกันไป…น้ำมันปาล์ม ราคาแพงบรรลัย พ่อค้ากล้วยทอด แม่ค้าข้าวผัด เดือดร้อนกันไป@@

ปิดท้ายสวนข่าววันนี้ ดัชนีราคาตลาดหุ้นเปิดประเดิมวันทำการแรกของเดือนมี.ค. ติดลบไป ๑๕.๓๑ จุด ปิดต่ำกว่าระดับ ๑,๒๐๐ จุดจนได้ โดยปิดที่ระดับ ๑,๑๘๘.๓๖ จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายกว่า ๔.๕ หมื่นล้านบาท…บ่งบอกอาการเจ็บป่วยของชีพจรปากท้องได้ชัดเจน

ฮูก ตาตี่