…สงครามปาเลสไตน์ฮามาส-อิสราเอล ยังประหัตประหารห้ำหั่นกันต่อเนื่อง ยอดผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บ ยังเพิ่มจำนวนขึ้นแบบก้าวกระโดด…@@
จับปฏิกิริยารัฐบาลไทย ต่อสถานการณ์สงครามตะวันออกกลาง ยังเงอะงะเฟอะฟะเหมือนคนเมาหมัด ทั้งที่มีชีวิตนักรบแรงงานไทยกว่า ๓ หมื่นคน กำลังตกอยู่ในความเสี่ยงบาดเจ็บล้มตาย จนป่านนี้แผนอพยพคนไทยออกจากสมรภูมิสงครามยังโหวงเหวงเหงงหงางวังเวงสิ้นดี…@@
ความตื่นตัวของกระทรวงการต่างประเทศ ในการใช้เพจกระทรวงฯถ่ายทอดสดการแถลงข่าวอัพเดทสถานการณ์สงครามวันละ ๒ รอบช่วงเช้า-ช่วงบ่าย เป็นสิ่งน่าชื่นชม แต่น่าเสียดายที่บุคลิกภาพผู้แถลงข่าวบางคน ดูไม่น่าเชื่อถือ แถมเนื้อหาคำแถลง ไม่ตอบโจทย์ที่ชาวบ้านอยากรู้ ซ้ำยังเหมือนมีการ”ปิดกั้น”การแสดงความเห็น ทั้งที่นั่นคือ”กระจกเงา”สะท้อนความอยากรู้ของชาวบ้าน และควรตอบชี้แจงให้หายสงสัย…@@
ใครก็ตามที่มีลูกหลานญาติพี่น้องทำงานในรัศมีสงคราม ฟังถ้อยแถลงเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลคงต้องสวดมนสต์หนักมาก…ไม่มีรายงานแผนอพยพคนไทยที่ชัดเจนเป็นรูปธรรม ให้เบาใจ…@@
ชุดความคิดรัฐบาล หมกมุ่นอพยพคนไทยจากสนามบินเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอลเป็นหลัก…แล้วปะเหมาะเคราะห์ร้ายสนามบินโดนถล่ม น่านฟ้าอิสราเอลถูกปิดล่ะ-จบเห่งั้นหรือ???@@
รัฐบาล ต้องเปิดทางเลือกที่มีความเป็นไปได้ ในการอพยพคนไทยกลับบ้านให้มากที่สุด ด้วยการเจรจากับจอร์แดน-อียิปต์-กาตาร์ ที่อยู่ใกล้เคียงสมรภูมิสู้รบ เพื่อเป็นทางเลือกในการลำเลียงคนไทย ออกจากพื้นที่เสี่ยง ไปขึ้นเครื่องบินที่จอร์แดน-อียิปต์-กาตาร์ กลับบ้าน แล้วประกาศเป็นแผนอพยพให้รับรู้ทั่วกัน และถือปฏิบัติตามนั้น…@@
วกกลับมาเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต…รัฐบาลผนึกกำลังพรรคเพื่อไทย เดินหน้าฝ่ากระแสคัดค้านต่อต้านเต็มพิกัด “อุ๊งอิ๊ง”-แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และว่าที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทย อวดดีคุยซะเบอร์ใหญ่ “หากเราทำสำเร็จ ต่างชาติจะดูเป็นตัวอย่าง”…ขอโทษเถอะ แล้วถ้าชาติล่มจมล้มละลายล่ะจะยอมให้ยึดทรัพย์วงศาคณาญาติตระกูลชินวัตรทั้งหมดมั้ยล่ะ…@@
จับสังเกตอาการแกนนำเพื่อไทย กรณีดิจิทัลวอลเล็ต กำลังถูก”ทิฐิ-โมหะจริต”เข้าครอบงำอย่างแรง ถึงขั้นมอง”ผู้เห็นต่าง”เป็น”ฝ่ายตรงข้าม”..ถึงขั้นตีความสัดส่วนหนี้ครัวเรือนไทยต่อจีดีพี กว่าร้อยละ ๙๐ ผิดเพี้ยนไปเป็น”ประชาชนกว่า ๙๙ เปอร์เซ็นต์ เป็นหนี้ไปแล้ว”…ไม่รู้แกล้งโง่ หรือ โง่โงหัวไม่ขึ้น @@
ฮูก ตาตี่